ผมได้มีโอกาสไปเข้าร่วมงาน Royal Phuket Marina’s Full Moon Boat Rally ซึ่งเป็นกิจกรรมที่ทำร่วมกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาครับ โดยเป็นกิจกรรมที่จะได้พาผู้เข้าร่วมทุกท่านท่องไปยังหมู่เกาะหลายๆแห่งในเกาะภูเก็ต เช่น เกาะราชาใหญ่ บานาน่าบีชที่เกาะเฮ (หรือในอีกชื่อที่เรียกว่า Coral island) โดยเหล่าผู้เข้าร่วมกิจกรรมจะนำเรือของตนเองมาเข้าร่วมและขับเรือไปพร้อมๆกันในท้องทะเลแห่งนี้และแวะชมเกาะต่างๆระหว่างทางก่อนจะไปพักค้างคืนกันที่เกาะราชาพร้อมกับ BBQ Dinner

โดยกิจกรรมจัดเริ่มต้นที่ Royal Phuket Marina หนึ่งในมารีน่าที่มีชื่อเสียงระดับโลก แหล่งรวมไลฟ์สไตล์ของนักเดินทางที่หลงใหลการล่องเรือยอทช์ ภายในโครงการมีบริการที่ครบวงจร ตั้งแต่ในส่วนของมารีน่า ที่สามารถรองรับเรือได้ถึง 216 ลำ ความยาวเรือตั้งแต่ 10 – 35 เมตร

เราเริ่มต้นออกจากท่าเรือที่มารีนา แล้วล่องลงไปทางทิศใต้ไปยังเกาะราชาใหญ่ ซึ่งถือว่าเป็นเกาะที่มีความสวยงามทางธรรมชาติ เลาะเลียบไปทางด้านทิศตะวันออกของเกาะภูเก็ต ผ่านเกาะมะพร้าว เกาะขนาดใหญ่ที่เป็นที่ตั้งของสวนมะพร้าวหลายแห่งที่ได้ตั้งตามชื่อของเกาะ ถัดมาอีกนิดคือเกาะสิเหร่ เกาะที่นักท่องเที่ยวอาจจะรู้จักหน่อย แต่ชาวบ้านรู้จักกันในอีกชื่อว่าแหลมตุ๊กแก เนื่องด้วยลักษณะทางกายภาพที่ยื่นออกมาเป็นแหลมคล้ายมือของตุ๊กแก แหลมตุ๊กแกเป็นที่ตั้งของโรงแรมที่พักชื่อดังหลายแห่งครับ

จุดเด่นของฝั่งด้านตะวันตกนั้นคือ การชมพระอาทิตย์ขึ้นนั่นเอง และด้วยความที่ทะเลมีลักษณะคล้ายอ่าว มีเกาะล้อมรอบเกือบทุกด้านทำให้น้ำทะเลฝั่งนี้ค่อนข้างนิ่ง บรรยากาศการล่องเรือเลยชิวสุดๆ

เลยจากแหลมตุ๊กแกมาได้ประมาณ 5 นาที ก็จะมาถึงแหลมพันวา ที่หลายคนรู้จักกันดีเพราะเป็นที่ตั้งของรีสอร์ทหลายแห่งอีกเช่นกัน จริงๆแล้ว ตรงแหลมพันวามีเกาะเล็กๆอีก 2 เกาะคือ เกาะตะเภาน้อย และ เกาะตะเภาใหญ่ ที่คนภูเก็ตรู้จักกันตั้งแต่เด็กเพราะที่นีเป็นแหล่งอาศัยของนกเงือกจำนวนมาก

เนื่องด้วยภูเก็ตมีเกาะอาณาบริเวณอยู่รอบตัวถึง 39 เกาะ ทำให้มีเกาะน้อยใหญ่จำนวนมาก ที่บางครั้งเราไม่ได้ยินชื่อ แต่ถ้าเราได้มีโอกาสมาท่องทะเลภูเก็ตโดยเฉพาะด้านทิศตะวันออกเฉียงใต้ เราจะเหมือนอยู่ท่ามกลางป่าเกาะเล็กๆ (อาจจะไม่ยิ่งใหญ่อ่าวพังงาหรือหมู่เกาะห้องกระบี่) แต่ก็นับเกาะในสายตาได้หลายเกาะเลยทีเดียวครับ เช่น เกาะโหลน เกาะทะนาน เกาะแอว เกาะบอน เกาะเฮ เกาะแก้วใหญ่ เกาะแก้วน้อย เกาะไม้ท่อน คุ้นชื่อเกาะเหล่านี้กันไหมครับ 😊

เกาะเฮ หรือที่ฝรั่งเรียกกันว่า เกาะคอรัล (Coral) เป็นจุดที่เรือได้จอดและให้เราได้แวะพัก เกาะเฮเป็นเกาะที่เที่ยวได้ตลอดทั้งปี สำหรับคนภูเก็ตที่นี่คือเกาะที่เราสามารถมาเที่ยวได้ทุกวัน นั่งเรือเพียง 10 นาที น้ำทะเลแถวนี้ค่อนข้างสงบ ใช้เวลาเพียงครู่เดียวก็จะมาอยู่ท่ามกลางธรรมชาติ โดยเกาะเฮมีชื่อเสียงสำหรับสายดูนกนั่นคือ เป็นแหล่งที่อยู่อาศัยของเหล่านกเงือกนั่นเอง ถึงแม้จะไม่การันตีว่าจะได้พบหรือไม่ แต่โอกาสนั้นถือว่าสูงมาก ผมเห็น 3 ตัวเลยครับรอบนี้ โดยที่เกาะเฮนั้นจะมี 2 หาดที่เราสามารถเลือกมาได้คือ บานาน่าบีช (Banana beach) และ กาฮังบีช (Kahung beach) โดยในครั้งนี้ผมแวะที่บานาน่าบีชครับ

หลังจากที่เรือล่องผ่านเขตป่าเกาะของภูเก็ตเหล่านี้มา ก็จะเป็นพื้นที่ทะเลเปิดทางด้านทิศใต้ ที่สังเกตได้ชัดเจนว่า ลมจะแรงขึ้น และคลื่นในทะเลจะสูงขึ้นอย่างเห็นได้ชัดเนื่องจากไม่มีผืนแผ่นดินที่คอยบังลมในทิศทางต่างๆแล้วนั่นเอง โดย 2 เกาะสุดท้ายที่เป็นพรมแดนทางแผ่นดินของประเทศไทยในส่วนนี้คือ เกาะราชาน้อย และ เกาะราชาใหญ่ จุดหมายการเดินทางของผมในวันนี้นี่เองครับ

กาะราชาใหญ่ มีสิ่งอำนวยความสะดวกที่ครบครัน มีชาวบ้านอาศัยอยู่อย่างถาวรจริงๆ และก็มีโรงแรมรีสอร์ทหลายๆแห่งเปิดให้บริการที่นี่ เกาะราชาใหญ่จะให้ความรู้สึกแบบตัดขาดจากโลกภายนอกได้แบบที่นักท่องเที่ยวต่างชาติมักมาพักแบบอยู่ยาวกันที่นี่เป็นประจำ โดยสิ่งที่ขึ้นชื่อของเกาะราชาใหญ่คือน้ำทะเลใสสะอาด และหาดทรายขาวละเอียดลักษณะคล้ายทะเลแถบหมู่เกาะสิมิลัน เพียงแต่ว่าเดินทางมาเที่ยวได้ง่ายและเหนื่อยกว่าน้อยมาก

นอกจากนี้เกาะราชาใหญ่ยังเป็นจุดหมายของสายนักดำน้ำเพราะน้ำใสเกือบทั้งปีเหมาะกับการเรียนดำน้ำ ส่วนถ้าเป็นสายไม่ดำน้ำจะมาทำวันเดย์ทริปก็ถือว่าเหมาะสม

เกาะราชาน้อย คือเกาะที่อยู่ใต้สุด เป็นเกาะที่ไม่มีคนอาศัย ชายหาดที่มีก็ขนาดเล็กมากจนอาจจะเรียกว่าไม่มี แต่สิ่งที่เกาะราชาน้อยมีเหนือกว่าเกาะอื่นๆในภูเก็ต นั่นคือ ความใสของน้ำชนิดที่เรียกว่า น้ำทะเลสีฟ้าใสขนาดนี้มีอยู่ใกล้ๆภูเก็ตแค่นี้เอง ความใสของน้ำทะเลที่นี่คือระดับโลกเลยครับถ้าให้ผมประเมิน

ที่พัก ผมได้พักที่ The Racha ที่พักระดับ 5 ดาวเต็มของเกาะราชาใหญ่ ลืมเรื่องความเป็นเกาะแล้วคิดว่าสิ่งอำนวยความสะดวกจะไม่ครบไปได้เลยครับ เพราะที่นี่มีครบทุกอย่างเท่าที่โรงแรม 5 ดาวพึงมี โรงแรมสีโทนขาวตัดกับสีน้ำทะเลดูสวยงามสะอาดตามาก และชายหาดหน้ารีสอร์ทนั้นน้ำใสสุดๆไปเลยครับ ในกิจกรรมจะมีการจัด BBQ Dinner ที่ beach club ที่ชื่อว่า Café del Mar ของทางรีสอร์ท

ทั้งหมดนี่ก็คือเส้นทางของกิจกรรมโบ๊ทแรลลี่ที่ปัจจุบันการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยร่วมกับองค์กรภาคเอกชน เช่น Royal Phuket Marina กำลังทำการประชาสัมพันธ์ให้กับนักท่องเที่ยวทั่วโลกให้มาเที่ยวเมืองไทยและภูเก็ตในอีกรูปแบบครับ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการท่องเที่ยวในรูปแบบของการนำเรือมาท่องเที่ยวด้วยตนเองที่กำลังเป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวต่างชาติในเวลานี้

โดยในกิจกรรม Boat rally ที่ผ่านมีผู้เข้าร่วมทั้งหมด 95 ท่าน จากเรือทั้งหมด 11 ลำ โดยแต่ละลำต่างมีรายชื่อดังนี้ Darling, Demarest, RPM 2, Siam Adventure world, Rang Noi Princess, Emba, The Other woman, Coca Cola speed boat, Trophy, Marky, Tiger lily และ Maha Betra

สำหรับท่านที่สนใจทริปนี้ สามารถติดตามได้จาก Royal Phuket Marina ซึ่งจะจัดกิจกรรมในลักษณะนี้อีกครั้งในช่วงเดือนมกราคมนี้ครับ