มาดากัสการ์ คือชื่อของเกาะที่ใหญ่เป็นอันดับ 4 ของโลก เป็นเกาะที่แยกตัวออกจากแผ่นดินใหญ่ของทวีปแอฟริกาเมื่อประมาณ 165 ล้านปีก่อน ทำให้เหล่าพืชพรรณและสรรพสัตว์ต่างๆมีเส้นวิวัฒนาการของตนเองแยกออกจากส่วนอื่นๆของโลกตั้งแต่นั้นมา ทำให้สัตว์และพืชมากมายหลายชนิดพบได้เฉพาะในมาดากัสการ์เท่านั้น โดยพระเอกและนางเอกของมาดากัสการ์นั้นคือ ลีเมอร์ (Lemur) และ บาวบับ (Baobab) ที่คนทั้งโลกเห็นแล้วเป็นต้องร้องอ๋อไว้ในใจทันที

มาดากัสการ์อาจจะถือได้ว่าเป็น “ทวีปที่แปด” (The Eight continent) เนื่องจาก 90% ของพืชพรรณไม้ที่นี่ (ประมาณ 9,000 ชนิด) พบได้เฉพาะในมาดากัสการ์เพียงแห่งเดียวบนโลก โดยมาดากัสการ์นั้นอยู่อย่างสันโดษไม่มีมนุษย์อาศัยอยู่ จนกระทั่งกลุ่มผู้บุกเบิกชาว Austronesian ชุดแรกจากทวีปเอเชียได้เดินทางมาถึงเมื่อราว 300 ปีก่อนคริสตกาล ก่อนจะตามมาด้วยการอพยพของชาวแอฟริกาแผ่นดินใหญ่ที่ข้ามช่องแคบโมซัมบิก และกลุ่มท้ายๆคือ ชาวอาหรับ อินเดียน และคนจีน รวมถึงคนฝรั่งเศสที่มาตั้งอาณานิคมที่นี่ ทำให้มาดากัสการ์เป็นหม้อรวมของวัฒนธรรมที่หลากหลายที่เราจะพบได้อย่างคุ้นตาระหว่างการท่องเที่ยว

Avenue of Baobab สถานที่ขึ้นชื่อของมาดากัสการ์

มาดากัสการ์ ใครกันที่จะหลงรัก

ต้องบอกว่ามาดากัสการ์ไม่ใช่สถานที่แมสที่ใครๆมาแล้วจะชอบอย่างแน่นอน เพราะเกาะแห่งนี้ไร้ซึ่งแสงสีใดๆ รวมถึงการช็อปปิ้งต่างๆ ที่นี่มีแต่ธรรมชาติ วัฒนธรรม และชาวบ้านที่พร้อมจะยื่นอัธยาศัยไมตรีให้เท่านั้น ถ้าใครที่มีความหลงใหลในสัตว์ป่าโดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มของสัตว์จำพวกลิงแล้วละก็ มาดากัสการ์ จะเป็นสรวงสวรรค์บนดินอย่างแน่นอน


สถานที่ท่องเที่ยวแนะนำในมาดากัสการ์

กรุงอันตานานาริโว (Antananarivo) เมืองหลวงของประเทศ

  • ชมรูปแบบการดำรงชีวิตในเมืองหลวงที่วุ่นวายแต่คลาสสิคที่คนท้องถิ่นเรียกชื่อเล่นของเมืองนี้ว่า “ทานา” (Tana) พบการตากผ้ากับพื้นริมถนนแบบชาวมาลากาซี (Malagasy) หรือรถแท็กซี่สีขาวเรโนลต์ อายุกว่า 50 ปี ที่วิ่งผ่านไปมา รถโบราณรุ่นน่ารักกะทัดรัดแต่มากด้วยประสิทธิภาพนี้มาจากประเทศฝรั่งเศสที่ยังคงวิ่งให้บริการเป็นรถแท็กซี่ และได้รับความนิยมใช้อย่างต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน อีกทั้งได้รับการส่งเสริมให้อนุรักษ์ไว้เป็นมรดกตกทอดอีกด้วย
  • ตลาดสินค้าหัตถกรรม (Craft market) หรือที่มีชื่อเรียกในภาษาท้องถิ่น คือ ตลาด La Digue พบกับสินค้าหัตถกรรมหลากหลายชนิดจากฝีมือของชาวมาลากาซีโดยแท้จริง แน่นอนว่าสินค้าทุกอย่างภายในตลาดแห่งนี้สามารถต่อรองราคาได้อย่างสนุกสนานไปกับสีสรรแห่งการใช้ชีวิตของพวกเขา

เมืองโมรอนดาวา (Morondava) เมืองท่องเที่ยวริมชายฝั่งมหาสมุทรอินเดีย

  • รับประทานอาหารแบบซีฟู๊ดปรุงสด ที่นำมาโดยชาวประมงท้องถิ่นจากมหาสมุทรอินเดีย เช่น ปูทะเล กุ้งลอบสเตอร์
  • ถนนแห่งต้นเบาบับ (Avenue of the Baobabs) เต็มไปด้วยแนวต้นเบาบับมากมาย รูปทรงสวยงามแปลกตาทอดยาวไปตามถนนกว่า 260 เมตร และบางต้นนั้นมีความสูงกว่า 30 เมตร มีอายุมากกว่า 800 ปี ส่วนใหญ่เป็นต้นเบาบับจากสายพันธุ์ Adansonia grandidieri ซึ่งมีทั้งหมด 8 สายพันธุ์ โดย 6 ใน 8 อยู่ในมาดากัสการ์ และทุกส่วนของต้นเบาบับไม่ว่าจะเป็น ใบ ราก ผล เปลือก สามารถนำมาใช้ประโยชน์และเป็นยาได้ทั้งสิ้น โดยเฉพาะน้ำมันสกัดจากเมล็ดที่อุดมด้วยวิตามิน นิยมนำมาผสมในครีมบำรุงผิว และเครื่องสำอาง เป็นที่ยอมรับอย่างเป็นทางการทั้งใน EU และสหรัฐอเมริกาจนได้รับสมญานามว่า Tree of Life หรือต้นไม้แห่งชีวิต
  • ต้นเบาบับรักกัน (Baobab Amoureux) หรือเป็นที่รู้จักกันในชื่อ Baobab lover ซึ่งเป็นสัญลักษณ์แห่งความรัก และ Sacred Baobab ที่โด่งดัง
  • ชมพระอาทิตย์ตก (sunset) ที่ Avenue of Baobab ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งทัศนียภาพที่สวยงามอย่างยิ่งของผืนป่าเบาบับแห่งนี้
  • ป่าแล้งคิรินดี (Kirindy Dry Forest) ช่วงค่ำคืนทำกิจกรรมการส่องสัตว์ (Nocturnal visit) เพื่อตามหาบรรพบุรุษและที่มาของคำว่า Lemur โดยเฉพาะ ลีเมอร์สายพันธุ์แรก (Madame Berthe’s Mouse Lemur) ที่มาอาศัยอยู่เมื่อกำเนิดเกาะกว่า 60-80 ล้านปีก่อน ถือเป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมที่มีขนาดเล็กที่สุดในโลก มีขนาดลำตัวเฉลี่ยประมาณ 3-4 นิ้ว หนักเพียง 30 กรัม มีรูปร่างลักษณะแตกต่างไปจากลีเมอร์ทั่วไป ตัวเล็ก ตากลมโต มีนิ้วมือเล็กยาว หางปลายม้วน กินอาหารประเภท ใบไม้ ผลไม้ และแมลงต่างๆ ปัจจุบันถูกจัดอยู่ในระดับความเสี่ยงใกล้สูญพันธุ์ ถือว่าเป็นสัตว์แปลกหายาก และเป็นตระกูลลีเมอร์ที่มีความเก่าแก่ที่สุดบนเกาะมาดากัสการ์ ก่อนที่จะมีวิวัฒนาการหลายหลายขนาด และสายพันธุ์ในเวลาต่อมา

อุทยานแห่งชาติอันดาสิเบ (Andasibe Mantadia National Park) สวรรค์ของคนรักธรรมชาติ

  • เกาะลีเมอร์ (Lemur Island) ซึ่งเป็นสถานที่อนุรักษ์ลีเมอร์ที่มีชื่อเสียง สัมผัสความน่ารักของลีเมอร์หลากหลายสายพันธุ์อย่างใกล้ชิด ลงเรือแคนูไปยังเกาะต่าง ๆ ที่มี ลีเมอร์อาศัยอยู่มากมาย โดยเฉพาะ เกาะลีเมอร์หางแหวน (Ring tailed) ที่มีลวดลายที่หางสวยงามเป็นวงแหวนสลับสีขาวดำ มีการเคลื่อนไหวร่างกายเหมือนลีลาการเต้นระบำ
  • อุทยานแห่งชาติอนาลามาโซตรา (Analamazaotra Special Reserve) หนึ่งในมรดกโลกใน สัมผัสระบบนิเวศน์ในแบบป่าฝนของแอฟริกา เดินสำรวจธรรมชาติระยะสั้นเพื่อตามหา อินดรี – อินดรี (Indri Indri) สายพันธุ์ที่ได้ชื่อว่าเป็นลีเมอร์ที่มีขนาดใหญ่ที่สุด ที่ยังคงหลงเหลืออยู่และใกล้จะสูญพันธุ์ ซึ่งลีเมอร์ อินดรี – อินดรี มีขนาดโตเทียบเท่ากับเด็กโต (สูงประมาณ150 เซนติเมตร) ลำตัวมีสีขาวดำ และมีหูเป็นพู่กลมขนาดใหญ่ นอกจากนี้เสียงของ อินดรี – อินดรี นั้นสามารถได้ยินไปไกลหลายกิโลเมตรอีกด้วย
  • เขตรักษาพันธุ์สัตว์เลื้อยคลาน (Réeserve Peyrieras Madagascar) ชมกิ้งก่าคามิลเลียนสายพันธุ์ต่างๆ (Chameleons) เขตรักษาพันธุ์สัตว์แห่งนี้บริหารงานโดยเอกชน และก่อตั้งโดยนักพฤกษศาสตร์ชาวฝรั่งเศสนามว่า  André Peyriéras ผู้ซึ่งเป็นคนเก็บสะสมสัตว์เลื้อยคลายสายพันธุ์ต่างๆเอาไว้ในพื้นที่แห่งนี้ ซึ่งพระเอกของที่นี่ก็คือบรรดากิ้งก่าคามิลเลียนหลากหลายสายพันธุ์ ตุ๊กแกแอฟริกา กบ อีกัวน่า รวมถึงสัตว์ใหญ่อย่างจระเข้ และรวมถึงผีเสื้อด้วย นอกจากนี้ยังมีโอกาสได้เห็นลีเมอร์สายพันธุ์ประจำถิ่นอย่าง Sifaka หรือ Common brown lemur ท่านจะได้มีโอกาสได้ถ่ายรูปสัตว์โลกเหล่านี้ได้อย่างใกล้ชิด
  • ชมสัตว์เลื้อยคลานในยามค่ำคืน (Nocturnal visit at Mitsinjo Communitary Reserve) พบกับลีเมอร์สายพันธุ์ท้องถิ่นที่พบได้ในช่วงกลางคืน เช่น Goodman’s Mouse Lemur (Microcebus lehilahytsara) หรือ Greater Dwarf Lemur (Cheirogaleus major) รวมถึงบรรดาสัตว์เลื้อยคลาน เช่น Leaf-tailed Geckos (Uroplatus sikorae) รวมถึงสัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำอย่าง common tree frogs (Boophis viridis)

การเดินทางมาเที่ยวมาดากัสการ์

  • ไม่มีไฟลต์บินตรงระหว่างประเทศไทยและมาดากัสการ์ เส้นทางบินตรงที่สะดวกที่สุดสำหรับคนไทยมี 2 สายการบินคือ Kenya Airways เปลี่ยนเครื่องที่กรุงไนโรบี หรือ สายการบิน Air Austral เปลี่ยนเครื่องที่เมือง Saint-Denis เกาะ Reunion
  • ถ้าไม่ได้มีแพลนจะเที่ยวเกาะ Reunion อยู่แล้ว ไปทาง Kenya Airways จะสะดวกกว่าด้วยเหตุผลทางด้านวีซ่าที่จำเป็นต้องทำเพิ่มต่างหากมีขั้นตอนที่มากขึ้น เพราะเกาะ Reunion ถือว่าเป็นจังหวัดโพ้นทะเลของประเทศฝรั่งเศส

ฤดูการท่องเที่ยวมาดากัสการ์

ช่วงระหว่างเดือนพฤษภาคมถึงเดือนธันวาคม ซึ่งเป็นหน้าแล้งของที่นี่ เนื่องจากการท่องเที่ยวเกือบทั้งหมดขึ้นอยู่กับธรรมชาตและสภาพถนนที่ไม่ได้ดีนัก การมาในช่วงไร้ฝนเป็นอะไรที่ดีที่สุด


วีซ่ามาดากัสการ์

สำหรับคนไทยเราสามารถทำ Visa on arrival ได้ที่สนามบิน Ivato International Airport ไม่จำเป็นต้องเตรียมเอกสารใดล่วงหน้า ยกเว้นหนังสือเดินทางที่ยังสามารถใช้งานได้และมีวันหมดอายุไม่น้อยกว่า 6 เดือน ณ วันเดินทาง


แนะนำแผนการเดินทางในมาดากัสการ์

  • วันที่ 1 เดินทางจาก Bangkok สู่เมือง Antananarivo ประเทศมาดากัสการ์ แนะนำสายการบิน Air Austral
  • วันที่ 2 เดินทางจาก Antananarivo ไป Andasibe แวะเที่ยว Réserve Peyrieras Madagascar Exotic และ Nocturnal visit at Mitsinjo Communitary Reserve
  • วันที่ 3 Andasibe เที่ยว Analamazoatra Reserve และ Lemur Island
  • วันที่ 4 เดินทางจาก Andasibe กลับ Antananarivo
  • วันที่ 5 บินภายในประเทศไปยัง Morondava และต่อรถไปยังป่าแล้ง Kirindy
  • วันที่ 6 เดินทางจากป่าแล้ง Kirindy มาที่ Avenue of Baobab และพักที่ Morondava
  • วันที่ 7 บินภายในประเทศจาก Morondava กลับเมืองหลวง Antananarivo
  • วันที่ 8 เดินทางจาก Antananarivo สู่เมือง Saint-Denis เกาะ Reunion
  • วันที่ 9 เดินทางกลับจาก Saint-Denis สู่ประเทศไทย

Madagascar and beyond

เนื่องด้วยภูมิประเทศที่เป็นเกาะ ทำให้การเดินทางไปยังจุดต่อไปต้องใช้เครื่องบินเป็นพาหนะทั้งสิ้น โดยประเทศที่สามารถนำมารวมกับทริปมาดากัสการ์นั้นคือ เหล่าบรรดาหมู่เกาะข้างเคียงในมหาสมุทรอินเดียทั้งหมด เช่น มอริเชียส (Mauritius) เรอูนียง (Réunion) เซเชลส์ (Seychelles) หรือจะข้ามไปยังแผ่นดินใหญ่แอฟริกาเพื่อชมซาฟารีที่ดีที่สุดในโลกที่ เคนยา (Kenya) หรือ แทนซาเนีย (Tanzania) ก็เป็นส่วนผสมที่สมบูรณ์แบบสำหรับผู้ที่หลงใหลในชีวิตของสัตว์ป่า

สนใจทัวร์มาดากัสการ์ในสไตล์ของหมอๆตะลุยโลก ท่านสามารถดูแผนการเดินทางได้ที่นี่