การเช็คสภาพอากาศ
การท่องเที่ยวอย่างมีความสุข ก็คือ อยู่ถูกที่และถูกเวลา อุตส่าห์หาวันลาเสียตังค์ข้ามน้ำข้ามทะเลมาถึงไอซ์แลนด์แล้วไปไหนเจอแต่ฝนเจอแต่หิมะคงไม่สนุก หรือจะมาดูแสงเหนือออโรร่าแบบพวกเราหันมองขึ้นฟ้าเจอแต่ก้อนเมฆสีดำทะมึนลอยอยู่บนหัว ทุกอย่างแบบนี้ไม่เห็นอะไรพอดี ดังนั้น การวางแผนการเดินทางล่วงหน้าในทุก ๆ วันจะทำให้ปัญหาต่าง ๆ เหล่านี้ลดไปได้บ้างครับ
กรมอุตุนิยมวิทยาของไอซ์แลนด์ http://en.vedur.is/ มีข้อมูลเสิร์ฟใส่จานให้เราชนิดที่เรียกว่าครบถ้วนและบริบูรณ์ ผมจะพาไปดูในส่วนที่ต้องใช้บ่อย ๆ และคิดว่าสำคัญที่สุดสำหรับการมาล่าแสงเหนือนะครับ
ที่หน้าแรกหลังจากเข้าเว็บไซต์มาจะเป็นจากคอมพิวเตอร์หรือจากมือถือก็หน้านี้เหมือนกันครับ จะเป็นข้อมูลภาพรวมทั้งหมด ณ ช่วงเวลาที่จะถึง แต่สิ่งที่แนะนำ คือ กรอบสีส้มทางขวามือครับ เลือก Whole country
หลังจากเลือก Whole country มาแล้วจะเป็นหน้าจอแบบนี้ ทางฝั่งขวามือ คือ จะเห็นเป็นแผนที่ประเทศไอซ์แลนด์พร้อมแสดงสภาพอากาศของเมืองใหญ่ในไอซ์แลนด์ครับ เมื่อเอาเมาส์ไปวางก็จะขึ้นข้อมูลแบบละเอียดให้ดู ตั้งแต่ความแรงลม อุณหภูมิ หรือแม้กระทั่งปริมาณน้ำค้าง
กรอบสีเขียวทางซ้ายมือ คือ เขตต่าง ๆ ในประเทศ ที่เราสามารถเลือกดูแบบละเอียดเข้าไปได้อีก
กรอบสีดำ คือ Aurora forecast หรือส่วนที่เราใช้บ่อยในการทำนายการเกิดแสงเหนือครับ
อย่างกรอบสีเขียวเมื่อกี้นี้ถ้าเราเลือกเฉพาะส่วนที่เป็น Reykjavik ก็จะได้ข้อมูลแถว ๆ เมืองหลวงได้ละเอียดยิ่งขึ้น
สิ่งซึ่งที่เราจะได้เห็นคือ
สภาพอากาศเวลานั้นๆ
- Clear Sky ฟ้าแจ่มมาก
- Partly Cloudy แบบก็ถึงไม่แจ่ม แต่ก็ยังโอเค
- Cloudy อันนี้คือจุดกึ่งกลางที่ผมพอโอเค คือไม่แย่แต่ก็ไม่ดี ภาษาช่างภาพเรียก “ฟ้าอาเจน” หรือฟ้าขาว
- Overcast แบบนี้เริ่มไม่โอเค เมฆหนาหนาแน่น ฝนอาจจะตกได้
- Light rain ฝนตกแล้วจ้า โชคร้ายสุดๆ
- Rain อันนี้ภาษาชาวบ้านเรียกจบเห่ครับ เก็บแรงนอนได้เลยจ้า
ความแรงของลม
- จะมีบอกทิศทางของลมอยู่ ว่าจากทิศไหนไปไหน ถ้าเราไม่ได้ขับเครื่องบินหรือเดินเรือ ก็คงไม่ได้เป็นประเด็นมากนัก
- อันที่สองสำคัญกว่าคือ “ความแรงลม” (Wind speed) แปลความหมายได้คร่าวๆประมาณนี้นะครับ
- < 1 m/s อันนี้ชิวๆ เหมือนกับไม่มีลมอะไรเลย
- 1-3 m/s อันนี้เริ่มมีลม ควันลอยตามลม แต่ยังแบบชิวๆเหมือนกัน
- 3-5 m/s อันนี้ผิวหน้าเราสัมผัสได้ถึงลมที่เข้าปะทะร่างกายแล้วครับ
- 5- 13 m/s อันนี้ฝุ่นเริ่มตลบ ใบไม้เล็กๆเริ่มเคลื่อนไหว แบบนี้ยังพอไหวอยู่ แต่ต้องระวังแล้ว
- > 13 m/s อันนี้ต้นไม้สั่นไหวชัดเจน ให้หาที่สงบๆอยู่ได้แล้วครับ หยุดเดินทาง!!!
- ความแรงลมสำคัญอย่างไร อย่างแรกเลยคือ มันทำให้อุณหภูมิหนาวขึ้นแบบไม่คาดคิด เช่นจริงๆ อาจจะแค่ 0 องศา แต่พอมีลมสัก 10 m/s วิ่งผ่านตัว อาจจะกลายเป็น -10 องศาแทน หนาวขี้แตกเลยครับ
- สำหรับคนที่ชอบถ่ายรูปยิ่งสำคัญ เพราะการมีลมคืออุปสรรคสำคัญที่ทำให้กล้องเราสั่นอีก
นอกจากนี้เรายังสามารถเลื่อนแถบด้านล่างเพื่อเลื่อนไปดูการพยากรณ์ในอนาคตได้ถึง 6 วันล่วงหน้าครับ (แต่ในความเป็นจริงใช้ดูแค่วันรุ่งขึ้นก็โอเคมากแล้วครับ นานไปไม่ค่อยตรง)
มาถึงส่วนที่ผมโคตรจะประทับใจจนถึงทุกวันนี้คือ
Aurora forecast
นับว่าเป็นของขวัญจากกรมอุตุนิยมไอซ์แลนด์ที่มอบให้แก่นักล่าแสงเหนือทุกคนครับ แผนที่ประเทศตรงกลาง เห็นมีส่วนที่เป็นสีเขียวเข้ม อ่อน อ่อนกว่า จนถึงขาว หมายถึงอะไร
สีเขียวเข้มมาก คือ เมฆอยู่กันอย่างหนาแน่น พูดง่าย ๆ คือ ฟ้าปิด ถ้าเป็นตอนเช้าก็คือไม่มีแสงแดดเล็ดลอดมาเลย ถ้าเป็นตอนกลางคืน ก็คือ มืดสนิทไม่เห็นดวงดาว ไม่เห็นออโรร่าไรทั้งนั้น
สีขาว คือ ไม่มีเมฆเลย พูดง่าย ๆ คือ ฟ้าเปิด ถ้าเป็นตอนเช้า ก็คือ แสงแดดร้อนตับแลบ ถ้าเป็นตอนกลางคืน ก็คือ สวรรค์ชั้น 7 ครับ ดาวจะมาเป็นล้านดวง หากดวงสมพงศ์กันออโรร่าจะมาเต้นระบำให้เราดูเป็นขวัญตาอีก
ส่วนสีระหว่างนี้ก็ลดหลั่นกันไปตามลำดับครับ แถบเมนูสีน้ำเงินสามารถเลื่อนไปดูการพยากรณ์ล่วงหน้าได้ 5 วันเช่นเคย (แต่เอาจริง ๆ ใช้แค่วันรุ่งขึ้นก็โอเคมากแล้วครับ แถบเมนูสีแดงจะบอกถึงโอกาสการเกิด Aurora ณ ช่วงเวลานั้น ไล่จาก 0-9 ถ้าเอาแบบเห็นชัวร์ต้อง 3 ขึ้นไป แถบเมนูสีชมพู จะบอกเวลาพระอาทิตย์ขึ้น-พระอาทิตย์ตก เห็นว่ากว่าจะมืดก็เข้าไปจะ 4 ทุ่มแล้วครับ นี่เดือนเมษายนนะเนี่ย
ทีนี้แผนที่นี้มันดีอย่างไร ขออธิบายแบบนี้ละกันครับ
เกิดวันที่ 10/6/2557 เวลา 15.00 น. เราเช็กสภาพอากาศแล้วพบว่าบริเวณที่เราอยู่ตอนนี้ในอีก 9 ชั่วโมงข้างหน้าฟ้าจะปิดมาก (พื้นที่สีเขียวเข้มแป๊ด) โอกาสเห็นออโรร่าเป็นศูนย์ แต่พอมองไปทางพื้นที่ด้านข้างพบว่าเลยออกไปอีก 150 กิโลเมตร เป็นพื้นที่สีขาว ฟ้าเปิดสุด ๆ แถมวันนั้น Aurora มี activity 3 แบบนี้ก็ต้องคิดแล้วครับว่าคุ้มไหมที่จะยอมขับรถเพื่อตามล่าออโรร่า คำตอบ คือ คุ้มมาก ๆๆๆครับ ผมบอกได้เลย
การเช็คสุขภาพถนน
หลังจากดูสภาพอากาศแล้วมาดูสภาพถนนกันต่อนะครับ ไม่ใช่ว่าฟ้าเปิดแต่ปรากฏว่าทางปิด อันนี้เรียกว่าตายน้ำตื้นนกกระจอกไม่ทันกินน้ำนะครับ ต้องเช็กให้พร้อมทั้งอากาศและถนนนะครับ
กรมทางหลวงไอซ์แลนด์ http://www.vegagerdin.is/english/road-conditions-and-weather/ มีข้อมูลที่แทบจะยัดเข้าปากอีกที่ครับ ไม่แพ้กรมอุตุฯ เลย ไปดูกันครับว่ามีอะไรบ้าง
เข้ามาหน้าแรกก็จะพบกับหน้าจอแบบนี้ครับ ตรงกลางเป็นแผนที่ประเทศเหมือนเคย ส่วนสี่เหลี่ยมสีส้มตรงกลางเราสามารถเลือกโซนที่จะเช็กสภาพถนนได้ครับ
แบบ Entire country ก็จะเห็นทางหลวงทุกเส้นบนเกาะแห่งนี้ครับ สีเขียว วิ่งสบาย, สีเหลือง วิ่งระมัดระวัง, สีแดง ห้ามวิ่ง อะไรแบบนี้ จะเห็นว่ามีความหมายของสัญลักษณ์อยู่ทางขวามือแล้วครับ
ถ้าแบบเลือกพื้นที่ South-West ซึ่งเป็นส่วนของเมืองหลวงมาก็จะเห็นรายละเอียด ชื่อเมืองที่ละเอียดมากขึ้นอีก จะเห็นว่านอกจากข้อมูลเบื้องต้นแล้วยังมีสัญลักษณ์รูป webcam ให้เช็กสภาพถนนแบบ realtime อีกด้วย
อันนี้เป็นแผนที่กล้อง CCTV ที่ติดอยู่ตามทางหลวงทั่วประเทศ ให้เราเช็กสภาพถนนแบบ Realtime ได้ครับ
ที่นี้วิธีใช้ คือ ดูก่อนว่าถนนที่เราเห็นนั้นเป็นสีอะไร ถ้าเป็นสีเขียวก็คงไม่อะไร แต่ถ้าบริเวณที่เราเห็นถนนเป็นสีเหลืองเราก็มาดูกล้อง ก็อาจจะพบว่าแถบนั้นพายุหิมะกำลังถล่มอยู่มีหิมะเยอะ ถ้าเน้นปลอดภัยก็อาจหลีกเลี่ยงเส้นทางหรือรอให้ทางการเขามาจัดการให้เรียบร้อยก่อน แล้วเราค่อยเดินทางต่อก็ได้ครับ อะไรแบบนี้ จะเห็นได้ว่ามีข้อมูลอยู่ในมือแล้ว ถ้าไม่ใช้ให้เกิดประโยชน์จะพลาดโอกาสดี ๆ ไปขนาดไหนครับ
หากใครสนใจอุปกรณ์การเดินทาง เป้แบคแพค เสื้อแจ็คเก็ตกันลมกันฝน เสื้อขนเป็ด ลองจอน ถุงมือกันหนาว
สามารถเข้าไปเลือกชมสินค้าได้ที่ ร้านของพวกเรา The Puffin House