“ไอซ์แลนด์” ถือว่าเป็นประเทศในกลุ่มเชงเก้น แต่การขอวีซ่าประเทศไอซ์แลนด์ ต้องไปทำที่ “สถานทูตเดนมาร์ก” เท่านั้นนะครับ เพราะไม่มีสถานทูตไอซ์แลนด์ในประเทศไทยนั่นเอง
สำหรับคนไทยแล้วทางรัฐบาลไอซ์แลนด์เขาให้ทางเดนมาร์กเป็นคนดูแลทุกๆกิจกรรมในเมืองไทยทั้งหมด
โดยปกติ หลักการทั่วๆไปสำหรับการทำวีซ่ากลุ่มเชงเก้นจะมีดังนี้คือ
- ให้ยื่นขอกับประเทศที่เราอยู่นานที่สุด
- ถ้าทั้งสองประเทศอยู่นานเท่ากันให้ยื่นกับประเทศที่ไปถึงประเทศแรก
แต่จากกรุงเทพไปไอซ์แลนด์ ไม่มีสายการบินตรงอยู่แล้ว ยังไงเราก็ต้องไปเมืองใดเมืองหนึ่งในยุโรปก่อนเสมอ ดังนั้นเราจะไปยื่นที่สถานทูตเดนมาร์ก หรือ สถานทูตประเทศอื่นๆดีเช่น อังกฤษ ฝรั่งเศส นอร์เวย์ บลา บลา บลา…
คำแนะนำ สำหรับคนอยากจะไปเที่ยวประเทศอื่นก่อนไปไอซ์แลนด์ที่เป็นจุดหมายหลัก เช่น ขอเที่ยวฝรั่งเศส 1 วัน แล้วค่อยเข้าไอซ์แลนด์ แต่ไปขอที่สถานทูตฝรั่งเศส >>> แบบนี้ไม่แนะนำนะครับ ไปทำที่สถานทูตเดนมาร์กดีกว่า
“ผมสรุปให้สั้นๆ “ถ้าจะไปดูแสงเหนือที่ไอซ์แลนด์ ก็มาทำที่สถานทูตเดนมาร์ก จบนะครับ“
โดยสามารถส่งหลักฐานใบสมัครได้ที่ VFS Denmark ซึ่งเป็นบริษัทเอกชนรับหน้าที่ดูแลเรื่องยื่นคำร้อง (สถานทูตเดนมาร์คไม่รับเอกสารในทุกๆกรณี)
ที่ตั้งของ VFS Denmark
เลขที่ 10/104-106 (801-803),
ชั้น 8 อาคารเทรนดี้
สุขุมวิท ซอย 13 คลองเตยเหนือ
วัฒนา กรุงเทพฯ 10110
เวลาให้บริการยื่นใบคำร้องขอวีซ่า: 8.00 น. – 12.00 น. และ 13.00 น. – 15.00 น. (จันทร์-ศุกร์) ยกเว้นวันหยุด
เวลารับหนังสือเดินทาง : 13.00 น. – 16.00 น. (จันทร์-ศุกร์) ยกเว้นวันหยุด
เช็ควันหยุดทำการของศูนย์ยื่นวีซ่าได้ ที่นี่
สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ
“ต้องทำการนัดหมายล่วงหน้าเพื่อจองคิวก่อนนะครับ ที่นี่ โดย 1 คนจะได้เพียง 1 คิว ถ้าไปกันเป็นครอบครัว 5 คน ก็ต้องทำการจอง 5 คิว โดยจะมีเวลาให้เลือกเป็นช่วงๆ คำแนะนำคือให้รีบทำการจองคิวแต่เนิ่นๆ อย่าคิดว่าคิวจะว่าง เพราะพอใกล้ถึงช่วงฤดูกาลท่องเที่ยวของคนไทย คิวจะเต็มอย่างรวดเร็ว จนบางครั้งหลายๆท่านพลาดโอกาสการทำวีซ่าไปอย่างน่าเสียดายครับ
ค่าวีซ่า
รับเงินสดเท่านั้น!!!
ค่าธรรมเนียมวีซ่าท่องเที่ยว 2300 บาท
ค่าบริการ 900 บาท อัตรานี้จะถูกเรียกเก็บต่อการยื่นคำร้องแต่ละครั้ง นอกเหนือจากค่าธรรมเนียมในการสมัครวีซ่า
ค่าส่งไปรษณีย์ 200 บาท + ค่า SMS 60 บาท
รวม 3,460 บาท
เอามาละ มาสู่จุดสำคัญกันแล้วครับ ด่านปราบเซียน นั่นก็คือเรื่องของเอกสารนั่นเอง
เอกสารที่ต้องเตรียม
- แบบฟอร์มกรอกภาษาอังกฤษ กดที่นี่
- รูปถ่ายขนาด 35 x 45 มม. เท่านั้น และขนาดความยาวของศีรษะไม่ควรเกิน 30 – 36 มม. นับจากความยาวจากคางไปถึงส่วนบนสุดของผม + รูปถ่ายต้องเป็นรูปสีและฉากต้องเป็นสีสว่าง >>> อันนี้ซีเรียสนะครับ
- ประกันการเดินทาง ต้องเป็นของบริษัทที่ได้รับการรับรองจากรัฐบาลไอซ์แลนด์ เช็คที่นี่นะครับ ถ้าซื้อของบริษัทที่ไม่ได้รับการรับรอง วีซ่าไม่ผ่าน เสียเงินฟรีหลายต่อ
- แผนการเดินทาง เนื่องจากเราไม่มีทางบินตรงเข้าไอซ์แลนด์ได้ ยังไงก็ต่างผ่านเมืองใดเมืองหนึ่งในทวีปยุโรปก่อน ก็ร่างแผนให้รัดกุมและเหมาะสมไม่เป็นที่สงสัยของสถานทูตนะครับ จะได้ไม่ต้องวุ่นวายภายหลัง
- เอกสารอื่นๆ ให้ดูตาม checklist ของสถานทูตตามนี้นะครับ
- ที่สำคัญคือ วีซ่าไอซ์แลนด์ เราสามารถทำได้ภายในระยะเวลาประมาณ 90 วันหรือ 3 เดือนก่อนเดินทางนะครับ
- เอกสารเตรียมไปให้พร้อม เผื่อเหลือดีที่สุด เพราะค่าถ่ายเอกสารแพงมาก ใบละ 5 บาทครับ
Tips
- แผนการเดินทาง
คงจะตลกน่าดู ถ้าเราไปยื่นขอวีซ่าเชงเก้น แล้วบอกว่า “อ๋อ แผนไอ คือ ไม่มีแผน ไอจะเดินทางในไอซ์แลนด์ไปที่ไหนก็ได้ ที่ฟ้าเปิด เพราะไอจะไปแตะแสงเหนือที่ขอบฟ้า ไอจะนอนบนรถ ตรงไหนก็ได้ในไอซ์แลนด์ ที่พักไอซ์แลนด์แพงไปครับ คืนละ 3,000 บาท ใครจะไปนอน”
ผมว่าโอกาสแป๊กได้วีซ่าสูงมากๆเลยครับ เราจึงต้องเขียนแผนเที่ยวให้ดูดีนิดนึง และนี่คือแผนที่เราตั้งใจทำขึ้นมาเพื่อยื่นขอวีซ่าโดยเฉพาะครับ โดยมีเมืองที่จะไปชัดเจน ที่พักชัดเจน บวกใบจองที่พักเรียบร้อยตาม requirement ของศูนย์ยื่นวีซ่าทุกประการ ดังนี้
หมายเหตุ การจองที่พักเพื่อยื่นวีซ่า ให้จองผ่าน booking.com, expedia.com เพราะสามารถยกเลิก (Free cancellation) ในภายหลังได้รับวีซ่าแล้ว โดยอ่านรายละเอียดการยกเลิกแบบไม่เสียค่าธรรมเนียมให้ดีๆ ว่า ยกเลิกแบบฟรีค่าธรรมเนียมได้ถึงวันไหน ไม่ใช่จองไปแล้ว ได้วีซ่าแล้ว ลืมยกเลิก ไปยกเลิกที่พักก่อนเข้าพักจริง 1 วัน นี่เสียเต็มๆนะครับ แล้วจะหาว่าไม่เตือน
สิ่งที่พึงระวัง booking.com มีบริการการจอง 2 แบบ
1.แบบยังไม่ต้องเสียเงินตัดบัตรเครดิตทันที
2.แบบที่ต้องตัดบัตรทันที แบบหลังจะได้ราคาถูกกว่า แต่ยกเลิกไม่ได้ทุกกรณี
ฉะนั้นก่อนจอง ช่วยดูดีๆด้วยครับ ไม่ใช่โทรไปโวยวายเค้า แต่ความจริงจองผิดไปเองหละ
ตัวอย่างแผนการเดินทาง เพื่อยื่นวีซ่าแต่แผนนี้ไม่เคยได้ใช้อีกเลย หลังวีซ่าผ่านแล้ว
- หลักฐานทางการเงิน (Statement) มีหลากหลายรูปแบบ เอาสรุปจากประสบการณ์ของผมนะครับ
- Book bank สำหรับสมุดบัญชีธนาคาร ให้เราถ่ายหน้าแรกไว้ และไปยังธนาคารเจ้าของบัญชีของเรา เพื่อออกหนังสือรับรองเงินฝากในบัญชีให้ โดยแจ้งว่าเพื่อเอาไปใช้ทำวีซ่า โดยธนาคารส่วนใหญ่จะมีฟอร์มนี้อยู่แล้วครับ
- ถ้าเป็นเจ้าของบริษัท ถ้าให้สะดวกก็คือ ถ้าเราเป็นพนักงานกินเงินเดือนบริษัทอยู่ก็ทำแบบเดียวกับวิธีด้านบน แต่ถ้าจะใช้ความเป็นผู้ถือหุ้นในบริษัท จำเป็นต้องไปขอเอกสารจาก DBD กรมพัฒนาธุรกิจการค้าทั้งรูปแบบภาษาไทยและภาษาอังกฤษ แล้วแนบ book bank ของบริษัทที่มีหลักฐานจากแบงค์ในรูปแบบเดียวกันครับ
- ถ้าเป็น freelance ให้เขียนหนังสือที่อธิบายถึงหลักฐานที่มาทางการเงินของเราเป็นภาษาอังกฤษเช่นเดียวกันครับ
เอกสารทุกอย่างที่เป็น ภาษาไทย ต้องมี ภาษาอังกฤษ กำกับด้วยเสมอ (และก็เช่นเดียวกันกับเอกสารที่เป็นภาษาอังกฤษ ก็ต้องมีไทยกำกับไปคู่กันด้วยเสมอ)
กี่วันถึงได้วีซ่า
คำถามสุดคลาสสิคอันนี้ ตอบได้หลากหลายรูปแบบครับ
ถ้าเอาตามระเบียบวิธีการเลยก็ใช้เวลาประมาณ 15 วันทำการ (ก็ประมาณ 3 อาทิตย์)
แต่ในทางปฎิบัติที่ผมเห็นแล้ว ถ้าเอกสารพร้อมแล้วไปขอแต่เนิ่นๆช่วงที่คนยังไม่เยอะ จะได้ค่อนข้างเร็วมากครับ ไม่เกิน 1 อาทิตย์นับจากวันไปยื่น หนังสือเดินทางเราก็ได้รับกลับคืนแล้ว
ที่ศูนย์รับคำร้องขอวีซ่า มีบริการเสริมเพื่ออำนวยความสะดวกอื่นๆด้วยเช่น
บริการถ่ายเอกสาร, บริการถ่ายรูป, บริการจัดส่งเอกสาร ,บริการอำนวยความสะดวกส่ง SMSเพื่อตรวจสอบสถานะการยื่นคำร้อง, บริการอินเตอร์เน็ตสำหรับปรินท์เอกสาร
หากใครสนใจอุปกรณ์การเดินทาง เป้แบคแพค เสื้อแจ็คเก็ตกันลมกันฝน เสื้อขนเป็ด ลองจอน ถุงมือกันหนาว
สามารถเข้าไปเลือกชมสินค้าได้ที่ ร้านของพวกเรา The Puffin House