“เกาะพีพี” เป็นสถานที่ซึ่งมีภาพยนตร์ดังหลายเรื่องที่ใช้เกาะพีพีเป็นฉากถ่ายทำไม่ว่าจะเป็น The Beach หรือ James Bond ทำให้มีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติหลั่งไหลเข้ามาเที่ยวไม่ขาดสาย และสำหรับเราคนไทยจะไม่ไปเที่ยวชมกันสักครั้งได้อย่างไร
สวัสดีครับทุกคนถ้าพูดถึงสถานที่ท่องเที่ยวทางฝั่งทะเลอันดามัน อันดับ 1 ใน 5 ที่ไม่ควรพลาด ก็ต้องมีชื่อของ “เกาะพีพี” อยู่ด้วยอย่างแน่นอน เพราะเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางทะเลที่ไม่ได้มีชื่อเสียงแค่เฉพาะในประเทศไทยเท่านั้น แต่ยังดังไปไกลระดับโลก
เกาะพีพีเป็นสถานที่ซึ่งมีภาพยนตร์ดังหลายเรื่องที่ใช้เกาะพีพีเป็นฉากถ่ายทำไม่ว่าจะเป็น The Beach หรือ James Bond ทำให้มีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติหลั่งไหลเข้ามาเที่ยวไม่ขาดสาย และสำหรับเราคนไทยจะไม่ไปเที่ยวชมกันสักครั้งได้อย่างไร แต่ถ้าใครกำลังลังเลใจว่าไปดีไหม ผมได้รวบรวมจุดเช็คอินพีพี ที่ห้ามพลาดมาให้แล้วครับ ขอเริ่มด้วย…
1.อ่าวมาหยา (Maya Bay)
สถานที่ถ่ายทำหนังเรื่อง The Beach ที่แสดงโดย Leonardo DiCaprio หลังจากปิดฟื้นฟูมา 3 ปี ตอนนี้กลับมาเปิดให้เข้าชมแล้วนะครับ
เมื่อเดินเล่นริมชายหาดจะพบฝูงฉลามหูดำ ที่แหวกว่ายหากินบริเวณอ่าว เป็นสัญญาณความสำเร็จของการฟื้นคืนความสมดุลทางทะเลให้กลับมาอีกครั้งนึง
โดยบริเวณนี้จะไม่อนุญาตให้ลงเล่นน้ำนะครับ ทำได้เพียงเดินเล่นริมชายหาดเท่านั้น
2.ปิเล๊ะ ลากูน (Pileh Lagoon)
ปิเล๊ะ ภาษามลายูแปลว่า “ห้อง” ทำให้คำว่า ปิเล๊ะลากูน นั่นคือ ลากูนที่แอบอยู่ในเกาะที่มีลักษณะเป็นห้องเข้าออกได้ทางเดียว แน่นอนครับว่ามันสวยมาก
ปิเล๊ะลากูน เป็นอีกหนึ่งจุดมุ่งหมายที่ใคร ๆ ก็อยากไปเยือนให้ได้ซักครั้งในชีวิต (นอกเหนือจากอ่าวมาหยา) สถานที่แห่งนี้เคยเป็นสถานที่ถ่ายทำภาพยนต์เรื่อง James Bond ตอน Tomorrow Never Die ภาพของ James Bond ที่ยืนบนเรือหางยาว ตัดกับน้ำทะเลสีเขียวมรกตใส สะท้อนกับแสงอาทิตย์ทำให้เป็นสัญลักษณ์ที่ถ้ามาปิเล๊ะ ต้องนั่งเรือหางยาวถ่ายภาพให้ได้เลยครับ
ด้านในลากูนก็จะให้อารมณ์เหมือนเล่นน้ำอยู่ในทะเลสาบส่วนตัว โดยมีภูผาสูงชันโอบรอบ น้ำนิ่งสงบคลื่นไม่แรงมาก และยังสามารถมองเห็นฝูงปลาได้ชัดเจน เหมือนว่าเรามาอยู่ในอีกโลกหนึ่งเลย
ใครที่เคยมาปิเล๊ะลากูนตอนก่อนโควิดแล้วพบแต่ความวุ่นวาย รับรองมาตอนนี้ครับ เราจะพบกับอีกเรื่องราวที่จะประทับใจไปอีกนาน
3.เกาะไผ่ (Bamboo island)
เกาะไผ่ หรือ เกาะไม้ไผ่ (ชื่อภาษาอังกฤษ Bamboo island) ได้รับฉายาว่า “ดงปะการังแสนไร่” ฉายาที่ได้มาเพราะปะการังที่หลากหลายทางทิศใต้ของเกาะเป็นสวรรค์ของนักดำน้ำเลยทีเดียว
น้ำทะเลสีฟ้าใสจนอยากจะกระโดดลงเล่นน้ำให้หนำใจเลยครับ หาดทรายขาวสะอาด แถมบรรยากาศก็ไม่พลุกพล่าน ความเงียบสงบนี้ทำให้เราได้ยินเสียงคลื่นชัดขึ้น อยากให้ทุกคนได้มาสักครั้งหนึ่งในชีวิตครับ
เกาะไผ่ จะเป็นส่วนหนึ่งของวันเดย์ทริปหมู่เกาะพีพีครับ ไม่ว่าจะมาจากทางกระบี่หรือภูเก็ต มักจะไปที่เกาะพีพีกันในช่วงเช้าและหลังจากรับประทานอาหารเที่ยงจะมาจบทริปกันที่เกาะไผ่นั่นเองครับ
4.จุดชมวิวพีพี (Phi Phi view point)
หากใครมาพีพีแล้วไม่ขึ้นมาจุดชมวิวพีพีก็เหมือนมาไม่ถึงนะครับ ซึ่งจุดชมวิวพีพีจะมีถึง 3 จุดด้วยกันเลยทีเดียว
จุดที่ 1 จะมีสวนหย่อมขนาดเล็กๆ และจุดถ่ายรูปสำหรับนักท่องเที่ยว
จุดที่ 2 จุดชึ้นชื่อที่สุดของพีพี นักท่องเที่ยวมักจะขึ้นมาชมพระอาทิตย์ตกกันที่นี่ครับ โรแมนติกมากๆ
จุดที่ 3 จะมองเห็นวิวอีกฝั่งของพีพี นั้นก็คือเกาะยูงและเกาะไผ่นั้นเองครับ
5.Phi Phi Coco Beach Resort
hi Phi Coco Beach Resort ตั้งอยู่บนหาดโละดาลัม เกาะพีพีดอน เป็นที่พักสไตล์ทรอปิคอล ให้ความรู้สึกเหมือนอยู่บาหลีเลยทีเดียวครับ คนที่รักธรรมชาติรักต้นไม้ต้องชอบที่นี่แน่นอนครับ
เมื่อก้าวเข้ามาที่ Phi Phi Coco Beach Resort คุณจะเซอไพรซ์กับความเป็นส่วนตัว และความเป็นธรรมชาติของที่นี่ จนคุณคิดไม่ถึงเลยว่าที่พักแห่งนี้จะตั้งอยู่บนเกาะพีพีดอนที่ทุกคนรู้จักกัน
อ่านเพิ่มเติม
6.เลิฟอันดามัน (Love Andaman)
สำหรับทริปนี้ผมไปกับ Love Andaman ครับ โดยสารด้วยเรือลำใหม่ของทางเลิฟ เป็นเรืออลูมิเนียมสปีด 4 เครื่องยนต์ ลำใหญ่นั่งสบาย หลังคาสูงโปร่ง มี Platform ขึ้นลงง่าย
ข้อดีของการไปกับทางเลิฟคือไกด์จะพาไปดำน้ำที่จุดลับด้วยครับ เรียกว่า Secret Mother Shark ซึ่งตรงนี้จะได้พบกับแม่ฉลามตัวยาวกว่า 2 เมตร แต่ถ้าอยากไปจุดนี้ต้องจองแบบ Private เท่านั้นนะครับ
สนใจติดต่อ : Love Andaman
จบแล้วนะครับสำหรับจุดเช็คอินห้ามพลาด! เกาะพีพี แต่ละสถานที่น่าประทับใจมากครับ ผมเชื่อว่าต้องมีไปซ้ำอีกแน่นอน ทริปต่อไปจะเป็นที่ไหนต้องติดตามต่อไปนะครับ