ผู้ช่วยนักเดินทางตัวจริงกับบัตร Visa payWave
- ปัจจุบันบัตรเครดิตเข้ามามีส่วนสำคัญในการเดินทางยุคปัจจุบันมาก เนื่องจากความสะดวกสบายในการใช้ ความปลอดภัยที่มากขึ้น รวมถึงการสะสมแต้มและสิทธิ์พิเศษต่างๆที่ทำให้หลายๆคนใช้บัตรเครดิตเป็นอีกหนึ่งทางเลือกในการจับจ่ายซื้อของโดยที่ไม่จำเป็นต้องพกเงินสดไปในปริมาณมากๆในเวลาเดียวกัน
- ตัวบัตรเครดิตหลักๆที่ผมใช้ประจำก็คือของ Visa ครับ ถ้าเป็นบัตรเครดิตแบบรุ่นเดิมๆการใช้จ่ายต้องทำผ่านระบบมาตรฐานคือต้องยื่นบัตรให้และมีการเซ็นลายเซ็นรับรองการใช้จ่าย
- ปัจจุบันเรามีบัตร Visa payWave ที่เป็นเทคโนโลยีการชำระเงินผ่านระบบ RFID ซึ่งมีความสะดวก และลดขั้นตอนการจ่ายเงินลงไป เพราะว่าการใช้บัตร Visa payWave นั้นเราเพียงแค่แตะบัตรที่บริเวณหน้าเครื่องอ่านข้อมูลก็เรียบร้อย ง่ายและสะดวกสบาย ลายเซ็นหรือ PIN ไม่จำเป็นอีกต่อไป ถ้าคิดภาพไม่ออกก็เหมือนกับการใช้บัตรเติมเงินซื้อสินค้านั่นเอง แต่นี่เป็นบัตรเครดิตแทนครับ ซึ่งตัว Visa payWave ไม่ได้ใช้ได้เพียงแค่ในประเทศไทย สามารถใช้ได้ตามร้านค้าต่างๆทั่วโลกได้ด้วย เพียงสังเกตสัญลักษณ์ Visa payWave แบบนี้ที่ติดอยู่ตามตัวเครื่องครับ
- ที่ไหนเห็นโลโก้ payWave แบบนี้ แปลว่าใช้บัตรวีซ่าเพย์เวฟได้เลยครับ อันนี้ผมลองเอาไปซื้อแมคกินที่มาเลเซีย ทุกอย่างราบรื่นครับ
- ปลอดภัย บัตร Visa payWave มั่นคงปลอดภัยเหมือนกับบัตรวีซ่าประเภทอื่นที่มี chip และมีระบบป้องกันหลายชั้นเช่นเดียวกัน บัตรจะถูกดำเนินการได้เมื่ออยู่ภายในระยะห่างจากเครื่องอ่านไม่เกิน 4 cm และปลายทางเพย์เวฟจะดำเนินการเพียงครั้งละ 1 ธุรกรรมเท่านั้น โดยที่ขั้นตอนตรงนี้ผู้รับเงินก็คือคนขายของไม่จำเป็นต้องขอบัตรของเราเลย บัตรจะอยู่ในมือเราตลอดเวลา
- ร้านค้าที่รองรับการใช้จ่ายแบบ Mobile contactless payments Visa payWave และ บัตรเครดิตหรือเดบิตของวีซ่า จะมีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ทั้งห้างสรรพสินค้า ร้านค้าแบรนด์ดัง ร้านอาหาร ร้านสะดวกซื้อ และร้านค้าประเภทอื่นๆ อีกมาก เช่นแมคโดนัล เดอะมอลล์ บิ๊กซี และล่าสุดกับ 7-Eleven ที่สามารถใช้จ่ายผ่านบัตรวีซ่าแบบต่างๆ ได้แล้ว และกำลังขยายเพิ่มขึ้น เพื่อที่จะตอบสนองความต้องการและช่วยให้คนสามารถใช้จ่ายได้อย่างสะดวกมากที่สุด
ก่อนไปต่างประเทศจึงต้องเตรียมตัวดังนี้
- ติดต่อธนาคารเจ้าของบัตรว่าคุณกำลังจะไปที่ไหนเพื่อกันการใช้จ่ายที่จะเกิดขึ้นอย่างผิดปกติ
- สมัคร Mobile Alert กับทางธนาคารเจ้าของบัตรเพื่อแจ้งเตือนทุกธุรกรรมทางการเงินที่เกิดขึ้นผ่านทางมือถือ (เราจำเป็นต้องเปิด roaming ถ้าต้องการใช้บริการนี้)
- จดเบอร์ติดต่อ Visa กรณีต้องการความช่วยเหลือฉุกเฉิน
- จด หรือสำเนาเอกสารทั้งหมดที่เกี่ยวก้บบัตรเก็บไว้อย่างใกล้ตัวเผื่อตัวจริงสูญหาย ยกเว้นรหัสผ่านที่ต้องจำให้ได้ ห้ามจด เพื่อป้องกันผู้อื่นนำ รหัสผ่านไปใช้
เรื่องความปลอดภัยก็ไม่ต้องห่วง
Zero Liability คือคำสัญญาว่าผู้ถือบัตรจะได้รับการยกเว้นไม่ต้องชำระเงินในกรณีที่เกิดธุรกรรมที่เป็นการฉ้อโกงโดยที่ผู้ถือบัตรไม่ได้ยินยอม โดยที่ผู้ถือบัตรจะต้องแจ้งให้ธนาคารทราบถึงการทำธุรกรรมดังกล่าวภายในระยะเวลาอันเหมาะสม และผู้ถือบัตรจะต้องไม่ได้ทำสิ่งใดที่ถือเป็นการประมาทหรือทุจริตด้วยตนเอง
เมื่อเกิดเหตุการณ์ฉุกเฉิน ตัวบัตรยังสามารถ
- การรักษาพยาบาล : แนะนำสถานที่รักษาพยาบาลและติดตามผล ซึ่งจะมีประโยชน์มากหากไปอยู่ประเทศที่ไม่ได้ใช้ภาษาอังกฤษ เนื่องจากจะสามารถค้นหา ติดต่อคุณหมอที่พูดภาษาอังกฤษได้
- หากเกิดปัญหาฉุกเฉิน เช่น อุบัติเหตุ ก็จะสามารถช่วยติดต่อผู้ช่วยที่พูดภาษาอังกฤษให้ได้ ข้อมูลเพิ่มเติม http://www.visa.co.th/personal/benefits/assistance.shtml
หมั่นตรวจสอบธุรกรรมและการเรียกเก็บเงินกับบัตรวีซ่าของคุณทางช่องทางออนไลน์เป็นประจำ หากคุณพบสิ่งใดที่ผิดปกติหรือน่าสงสัย โปรดแจ้งให้ธนาคารหรือสถาบันการเงินผู้ออกบัตรวีซ่าของคุณทราบทันที
ในกรณีฉุกเฉินเรายังสามารถถอนเงินได้จากเครื่อง ATM ได้
เราสามารถที่จะเช็คตำแหน่งของตู้ ATM ล่วงหน้าได้จากเว็บไซต์นี้ครับ www.visa.com/atmlocator
- ATM เสมือนหนึ่งเป็นตู้เก็บเงินเคลื่อนที่ของเรายามอยู่ต่างแดน ผมยกให้ ATM เป็นที่พึ่งสุดท้ายหรือแสงสว่างปลายอุโมงค์เสมอสำหรับการเดินทางไกลข้ามทวีป
- ตู้ ของธนาคารไทยสามารถถอนเงินออกเกือบได้ทั้งหมด โดยมีค่าธรรมเนียมการถอน และวงเงินจำกัดในแต่ละวันตามที่กำหนด โดยถ้าถอนจากบัตร Debit เราต้องมีจำนวนเงินล่วงหน้าในบัญชี แต่ถ้าถอนจากบัตรเครดิตจะเป็นการยืมเงินล่วงหน้าครับ
- ในกรณีของบัตร Debit เราควรมีเงินในบัญชีพอสำหรับการใช้จ่ายฉุกเฉินเท่านั้น ไม่ควรเก็บเงินหลักของเราไว้ที่นี่ อย่างผมมักจะเก็บไว้ประมาณไม่เกิน 50,000 บาทสำหรับบัญชี ATM โดยถ้ามีเหตุให้ต้องใช้เงินฉุกเฉินมากกว่านี้ก็จะแจ้งให้ทางญาติที่เมืองไทยโอนเพิ่มให้ครับ (หรือถ้ามี internet banking เราก็สามารถที่จะทำออนไลน์ได้ทั้งหมด แต่การใช้ internet banking ต้องทำผ่านมือถือหรือคอมพิวเตอร์ของเราเท่านั้น)
- การกดเงินออกจากตู้ ATM ให้ใช้สัญชาตญาณพื้นฐานเป็นหลักเลยคือ ถ้าตู้ ATM อยู่ในที่ลับตาคน ต้องเพ่งมองทุกทิศให้ครบ 360 องศาว่ามีอะไรผิดสังเกตหรือไม่ มีใครกำลังเดินตามเรามาหรือใหม่ หรือมีใครกำลังยืนจ้องสังเกตเราอยู่ ถ้ามีแบบนี้ก็ให้ยุติการกดเงินเอาไว้ก่อนและมองหาตู้อื่นครับ
- หลังจากได้รับเงินจากเครื่องแล้ว อย่าลืมใบเสร็จเด็ดขาด ให้รีบเอาเงินและบัตรออกมา หาจังหวะดีๆค่อยนับเงิน อย่าพึ่งนับตรงหน้างานครับเพราะจะทำให้คนอื่นเห็นเงินที่เราถือได้ (โอกาสที่เครื่อง ATM จะถอนเงินผิดมีได้ แต่น้อยมากครับ)
- การใช้เงินสดในต่างประเทศเรื่องการเก็บรักษาก็เป็นประเด็นที่เราต้องคำนึงถึงเสมอครับ นอกเหนือจากการโดนขโมยหรือโดนปล้นก็ยังมีเรื่องกางทำเงินหายระหว่างทาง หรือในบางครั้งพวกสกุลเงินที่เราไม่คุ้นเคยมีแบงค์ใบเล็กใบน้อยเยอะโอกาสที่จะทอนเงินผิดหรือนับผิด
และสุดท้ายนี้เจ้าตัวบัตร Visa payWave นี่เอง อย่างที่ได้บอกไว้ว่าจะเอาไปใช้ที่ต่างประเทศหรือจะใช้ในเมืองไทยก็ได้นะครับ กำลังเติบโตขึ้นเรื่อยๆ ผมคิดว่าเป็นอีกหนึ่งทางเลือกในการชำระเงินระหว่างเดินทางได้ดีพอสมควรครับ