Autumn in Tohoku 2019

สวัสดีครับ ห่างหายไปนานกับการรีวิวการเดินทางสำหรับตัวผม วิน หมอๆตะลุยโลก
และเนื่องจากเพิ่งกลับมาจากทริปสุดฟินนี้ไม่ถึง 1 สัปดาห์
เลยขออมารีวิวให้คุณผู้อ่านได้ข้อมูลเพื่อใช้ประกอบการเดินทางแบบฟินๆ เช่นกันครับ ^ ^

ทริปนี้เป็น Road Trip ครั้งแรกที่ขับรถเอง ถึง 2,100 กิโลเมตร ระยะเวลา 8 วัน 7 คืน
เพื่อชมใบไม้เปลี่ยนสีที่ญี่ปุ่น ในภูมิภาคโทโฮคุ ทั้งหมด 6 จังหวัดครับ
ได้แก่ Miyagi, Fukushima, Yamagata, Akita, Aomori, และ Iwate
ทริปนี้อยู่ในระหว่างวันที่ 5 – 13 พ.ย. 2562 ที่ผ่านมา
ซึ่งถือเป็นช่วงใบไม้เปลี่ยนสีกำลังพีคในหลายๆพื้นที่ของแถบนี้
ขณะเดียวกันบางพื้นที่ก็ใบไม้ร่วงหมดแล้ว หรือ มีหิมะแล้ว ในแถบที่สูงบนภูเขา
ซึ่งแถบที่สูงที่ว่า ถ้าจะมาชมใบไม้เปลี่ยนสี ต้องเป็นกลางเดือนตุลาคมถึงจะยังพอทันอยู่

สำหรับการขับรถในญี่ปุ่น คนไทยเราก็นิยมเช่ารถขับกันเป็นจำนวนมาก ดังนั้นไม่ต้องกังวลไปครับ
เพียงแค่มี “ใบขับขี่สากล” ก็สามารถเช่ารถที่ญี่ปุ่นได้แล้ว

สำหรับการขับรถในแถบนี้ผมมองว่าสะดวกเพราะการคมนาคมอาจไม่ทั่วถึงในแหล่งท่องเที่ยวมากนัก
เนื่องจากส่วนใหญ่เป็นแนวภูเขา ทะเลสาบ หรือธรรมชาตินั่นเอง จะมีก็แต่สถานที่อย่างวัดวาอารมที่เดินทางง่าย
แต่ไม่ใช่ว่าต้องขับรถมาเท่านั้นนะครับใครอยากจะนั่งรถไฟหรือรถบัสก็ทำได้เช่นกัน

มาดูแผนการเดินทางของผมคร่าวๆก่อนครับ เนื่องจากมีเวลา 7 วันเต็ม ก็ไม่มากไม่น้อย
เลยเล็งเป้าว่าน่าจะบินมาลง Sendai น่าจะเวิร์คที่สุด เทียบกับบินไปลง Tokyo
แผนการผมจึงออกมาเป็นเช่นนี้ครับ

โดยเลือกการบินไทย บินตรง ฟูลเซอร์วิส กรุงเทพ – เซนได
ซึ่งเพิ่งเปิดเส้นทางการบินนี้ได้ไม่กี่วันนี้เอง นับเป็นโชคดีครับ
ขาออก บินเวลา 23.59 น. ขากลับ บินเวลา 11.15 น.
ตามรายละเอียดข้างล่างครับ

TG 626 : 23:59 – 07:40+1 | BKK-SDJ (5 hrs 41 mins)
TG 627 : 11:15 – 16.05 | SDJ-BKK (6 hrs 50 mins)

Itinerary
day 0 : 5 Nov   Bangkok – Sendai airport (SDJ)
day 1 : 6 Nov   Sendai airport (SDJ) – Miyagi
day 2 : 7 Nov   Miyagi – Fukushima
day 3 : 8 Nov  Fukushima – Yamagata
day 4 : 9 Nov  Yamagata – Akita
day 5 : 10 Nov Akita – Aomori
day 6 : 11 Nov Aomori – Iwate – Miyagi – Fukushima
day 7 : 12 Nov Fukushima – Nataori
day 8 : 13 Nov Nataori – Sendai airport (SDJ) – Bangkok

1.การเช่ารถ
ผมเช่าผ่าน https://www2.tocoo.jp/en/
โดยเลือกวันเวลา และสถานที่ในการรับรถ
รวมไปถึงขนาดรถที่ต้องการเช่า การเช่าก็ไม่ยากครับ
เนื่องจากผมจองก่อนออกเดินทาง 1 วัน ซึ่งกระชั้นมากๆ
ทำให้ได้รถเก๋งขนาดใหญ่ จาก Toyota ของบริษัท Budget rental
ซึ่งเดิมทีตั้งใจจะเช่าแค่ Eco Car เท่านั้น แต่ไม่เป็นไร ดีกว่าไม่ได้รถซักคันครับ

ราคาค่าเช่า เป็นดังนี้
Basic Rental Fee: 45,798 yen (ไม่รวมน้ำมัน)
Compensation Coverage: 10,010 yen (ประกันบังคับทำ)
โดยจะได้รับอีเมลยืนยันเลขที่การจอง ใช้เลขนี้แจ้งกับบ.เช่ารถได้เลยครับ

2.การรับรถ หรือ คืนรถ

หลังบินมาถึงสนามบินเซนได ผมใช้ซิม AIS2Fly ที่เติมเงินเพิ่มมาในระบบ
โทรเข้ามาบริษัท Budget ที่ผมเช่า ตามอีเมลที่ได้รับสำหรับเบอร์โทร
ก็มีพนักงานตอบรับภาษาอังกฤษ ให้ไปคอยแถวประตูทางออก 1 จะมีเจ้าหน้าที่มารับ
เนื่องจากบริษัท Budget อยู่ไกลออกไปจากสนามบินราวๆ 5-10 นาที ไม่ได้อยู่ในสนามบินครับ

พอมาถึงแล้วก็ส่งพาสปอร์ต ใบยืนยันการจอง ใบขับขี่สากลให้กับเจ้าหน้าที่
ของผมเป็นคุณลุงที่แกพูดอังกฤษได้งูๆปลาๆ ยอมรับว่าทุลักทุเลครับ
แต่ด้วยความที่เค้าคงรู้ว่าจะเกิดเหตุการณ์นี้ จึงเตรียมเอกสารภาพเป็นภาษาอังกฤษอธิบายกฎเกณฑท์ให้เราเข้าใจ

สุดท้ายลุงเสนอว่าเค้าแนะนำให้ซื้อประกันเพิ่มวันละ 2,000 เยน สำหรับประกันแบบไม่ต้องจ่ายอะไรเลย
ซึ่งผมก็ตกลงซื้อนะครับ เป็นจำนวน 15,400 เยน รวม Vat เพื่อซื้อความสบายใจ เวลาเกิดเหตุไม่คาดฝัน

ส่วนเรื่องการคืนรถผมคืนที่เดิม ทีนี้ ถ้าใครจะคืนต่างที่ ก็จะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นแน่นอนสำหรับเรื่องนี้
ก็ให้ลองเปรียบเทียบดูว่าคุ้มค่ากับเงินที่เราจ่ายมั้ยครับ และเติมน้ำมันให้เต็มถังก่อนคืนรถครับ

3.การขับรถ

ที่ญี่ปุ่นเหมือนไทยเลย ขับพวงมาลัยขวา ป้ายจราจรต่างๆ ก็เหมือนไทย หรือเป็นหลักสากล
แต่ที่นี่เค้าเคร่งกันมากนะครับ ป้ายห้ามจอด ก็คือห้ามจอด ไรงี้เลย
สำหรับเวลากลางคืน มักต้องเปิดไฟสูง เพราะไฟตามถนนชนบทตามทางจะไม่มีให้
มีแต่บนทางด่วนที่มีไฟชัดเจน เลนถนนมักจะเป็นแบบสวนกัน ห้ามแซงครับ

ความเร็วสูงสุด ให้ดูตามป้าย มีตั้งแต่ 30, 40, 50, 80, 120 km/hr แล้วแต่พื้นที่ๆกำหนด
บนทางด่วนทุกๆ 20-30 กิโลเมตร หรือไม่เกิน 50 กิโลเมตร จะมีจุดแวะพัก มีป้ายบอกชัดเจน
เพื่อเข้าห้องน้ำ เติมน้ำมัน ทานอาหารครับ ฉะนั้นไม่ต้องกังวลเรื่องการขับรถบนทางด่วนไกลๆเลย

4.การจอดรถ

ระหว่างทางถนนจะมีไหล่ทางในจอดตลอดครับ
สำหรับการจอดรถในโทโฮคุ จะมีการจอดหลักๆ แค่ 2 แบบ ตามสถานที่สำคัญ หรือ โรงแรม
คือจอดแบบเสียเงิน กับ จอดแบบไม่เสียเงิน
กรณีจอดแบบเสียเงิน จะมีป้าย P พร้อมกับจำนวนเงิน ซึ่งอาจจะมีเจ้าหน้าที่คอยยืนเก็บเงินหรือเป็นพื้นที่ร้านค้าติดกับลานจอดรถ
ให้เดิมเข้าไปสอบถามถึงการชำระค่าจอดรถครับ ค่าจอดรถจะอยู่ราวๆ 300-500 yen สำหรับการจอดเพื่อแวะชมสถานที่สำคัญ
สำหรับโรงแรมจะมีค่าจอดรถถ้าเป็นในเมืองหรือใจกลางเมืองส่วนชานเมืองมักให้จอดฟรี
สำหรับ 7-11, Family mart, Lawson พวกนี้จอดฟรี เพื่อเข้าไปซื้อของในร้านของเค้าครับ

5.การเติมน้ำมัน

ชนิดน้ำมันจะมีอยู่ 3 แบบ คือ Regular สีแดง , Premium สีเหลือง, Diesel สีเขียว
ให้ถามบริษัทเช่ารถว่า เราต้องเติมชนิดไหน ห้ามเติมผิด ของผมจะเป็น Regular สีแดงครับ จำง่ายดี

ที่ญี่ปุ่นจะมีการเติมน้ำมันอยู่ 2 รูปแบบ คือเติมเอง กับ มีเจ้าหน้าที่คอยเติมให้ครับ
ผมมีประสบการณ์ทั้ง 2 แบบ กรณีเติมแบบเติมเอง สามารถใช้บัตรเครดิต
หรือ เงินสดก็ได้ กรณีเงินสด หากเติมแล้วไม่ถึงเงินที่จ่ายไป
ต้องเอาสลิปไปเข้าตู้ทอนเงินอีกที

สำหรับเจ้าหน้าที่ จะเข้ามาถามเรา ผมก็จะบอกแค่ว่า Regular
ตามด้วย “มันตัน” แปลว่า “เต็มถัง” กับ Cash หรือ Credit card สำหรับวิธีการจ่าย

ปล.ช่วงเวลาที่ไป น้ำมันเบนซิน Regular ตกราคา 140-150 เยน/ลิตร หรือราวๆ 40.5 บาท/ลิตร
ปริมาณน้ำมันที่ใช้ต่อวันราวๆ 20 ลิตร หรือค่าน้ำมันรถราวๆ 800-900 บาทต่อวัน สำหรับ 300 กิโลเมตรโดยประมาณ

6.ระบบ GPS

มีติดให้กับรถเป็นลูกครึ่งภาษาอังกฤษกับญี่ปุ่นปุ่มกดเมนูเป็นญี่ปุ่นอันนี้ผมคิดว่าน่าจะเป็นเรื่องแต่ละรถ
ของผมดูใช้งานไม่ยากไม่ง่าย ที่ญีปุ่นจะมีการกรอกเบอร์โทรสถานที่ หรือ Map code ก็จะออกมาเป็นปลายทางให้เลย
แต่ด้วยความที่ผมอาจจะไม่ชิน หรือไม่คล่อง ผมก็เปิด Google map ในมือถือเป็นหลักเลยครับ ถึงที่หมายเหมือนกัน สบายใจ

7.การขึ้นทางด่วน

จะมีการชำระเงิน 2 รูปแบบ คือ แบบควักเงินจ่ายตรงๆ เหมือนทางด่วนบ้านเรา หรือ ใช้ ETC card คล้ายๆ Easy pass บ้านเราครับ
ส่วนผมนั้นหลังจากได้ศึกษาแบบคร่าวๆ ตอนก่อนไป พบว่า ถ้าจ่ายด้วย ETC card นั้น ค่าทางด่วนจะถูกกว่าพอควรถึง 20%
และถ้ายิ่งซื้อ Tohoku Expressway Pass จะยิ่งถูกลงไปอีกครับ ถ้ากรณีขึ้นทางด่วนแบบผมทุกวันซึ่งสนนราคาอยู่ที่ 9,200 เยนทั้งทริป
อันนี้ลองคิดเองคร่าวๆ ถ้าจ่ายเงินสดน่าจะต้องเสีย 20,000 กว่าเยน ในขณะที่บัตร ETC เฉยๆ น่าจะเสียที่ 13,000-15,000 เยน

ปล.สำหรับใครไม่ต้องการ Expressway Pass แบบเหมาจ่ายแบบผม เพราะขึ้นทางด่วนไม่บ่อย ไม่ได้ขึ้นทุกวันแบบผม
ก็สามารถทำได้เพียงแค่ขอ ETC card กับบริษัทเช่ารถ ใช้เท่าไหร่จ่ายเท่านั้นโดยจะจ่ายทีเดียวหลังคืนรถครับ ซึ่งก็สะดวกอีกแล้ว

ราคา Tohoku Expressway Pass แยกเป็นรายวัน : https://www.driveplaza.com/trip/drawari/tep2015/en.html

เรื่องอาหารการกิน

เนื่องจากทริปนี้เน้นขับรถชมสถานที่จึงฝากท้องไว้กับจุดพักรถบนทางด่วน
หรือ Family mart, Lawson, 7-11 เป็นส่วนมากครับ

การใช้จ่าย

ทริปนี้ผมมีการใช้จ่ายด้วยกัน 3 แบบเลย คือ เงินสด, YouTrip Travel Wallet (Prepaid MasterCard), บัตรเครดิต

1.เงินสด สำหรับค่าจอดรถ,ค่าเข้าชมวัดต่างๆ แลกที่สนามบินสุวรรณภูมิ เรทที่ 1 บาท = 0.28 เยน (5 พ.ย. 2019)
2.YouTrip Travel Wallet สำหรับค่าอาหาร, ค่าที่พัก, ซื้อของจิปาถะ หรือของฝาก
3.บัตร Credit สำหรับเติมน้ำมัน (ลองใช้ debit เติมน้ำมัน ใช้ไม่ได้ไม่รู้ทำไมครับ)

============================

YouTrip Travel Wallet

หลายคนอาจสงสัยบัตร YouTrip ที่ผมว่าคืออะไร มันก็คือบัตรและแอปสำหรับใช้จ่ายเมืองนอก
รูปแบบเดียวกับ Kbank Journey หรือ SCB Planet ครับ
แต่มีข้อดีหลายๆอย่างที่เหนือกว่า เรามาทำความรู้จักกับมันกันครับ
เพราะผมใช้บัตรนี้กับทริปญี่ปุ่นแล้วถือว่าสะดวกสบายอย่างมาก
แอบกระซิบนิดนึงว่าบัตรนี้อัตราแลกเปลี่ยนถูกกว่าทุกๆบัตรที่ออกมาก่อนหน้านี้ และถูกกว่าร้านแลกเงินเสียอีก!!!

บ้ตรแลกเงินสัญชาติสิงคโปร์ ที่เรียกว่า Multi-Currency Travel Wallet ในรูปแบบ Mastercard

1. *Highlight* Welcome offer : สมัครแล้วได้รับ 200 บาท ทันที
เมื่อใช้จ่ายครั้งแรก ไม่มีขั้นตํ่า (โปรนี่รีบหน่อยครับ มีให้จำนวนจำกัน)

2. ไม่มีค่าธรรมเนียมใดๆ ในการใช้จ่ายและใช้งาน
– ไม่มีค่าธรรมเนียม 2.5% ในการใช้จ่ายสกุลเงินต่างประเทศ เหมือนบัตรเครดิตธนาคาร
– ฟรีค่าธรรมเนียมออกบัตร / ฟรีค่าธรรมเนียมรายปี / ฟรีค่าธรรมเนียมกด ATM ต่าง
ประเทศ 100 บาn (จนถึงวันที่ 31/01/63)

3. มั่นใจ รูดแลก เรทดีกว่าร้านแลกเงิน สามารถเทียบได้วันต่อวัน เช่น JPY เป็นต้น
และ ยังสามารถใช้งานได้มากกว่า 150 สกุลเงินทั่วโลก ตอบโจทย์นักเดินทางแบบคุณ

4. ระบบ SmartExchange เทคโนโลยีแลกเงินอัตโนมัติเพื่อความสะดวกในการใช้จ่าย

5. หมดห่วง เรื่องแลกเงินล่วงหน้า และยังได้เรทที่ดีกว่าเสมอ ณ เวลานั้นๆ โดยไม่มีค่าธรรมเนียม

แลกเงินได้ล่วงหน้าที่เรทดีที่สุดกว่าร้านแลกเงินทุกที่ทุกเวลา 10 สกุล
Thai Baht (THB) / United States Dollar (USD) / Euro (EUR) / Japanese Yen (JPY) /
Great Britain Pound (GBP) / Hong Kong Dollar (HKD) / Singapore Dollar (SGD) /
Australian Dollar (AUD) / Swiss Franc (CHF) / Canadian Dollar (CAD)
โดยใช้งานง่ายๆ ผ่านแอพพลิเคชันของ YouTrip โดยไม่มีค่าธรรมเนียมใดๆแอบแฝงเลย
การสมัครก็ทำได้ง่ายๆ เพียงแค่คุณมีบัญชีออมทรัพย์ของธนาคารกสิกรเพื่อนำเงินในบัญชีแลกได้ทันที
และติดตามทุกธุรกรรมการเงินได้แบบ Real-Time อีกด้วย

เรียกได้ว่าจะกินจะเที่ยวที่ญี่ปุ่น ก็สบายใจ ประหยัดทั้งเงิน ประหยัดทั้งเวลา หายห่วงเลยยย

Download app ได้ที่
https://go.you.co/10f

Website YouTrip คลิกเลยที่
https://go.you.co/0ef25

อย่าลืมกด Like เพื่อติดตาม
เพจ YouTrip ทันทีที่
facebook.com/youtrip.th

============================

แผนการเดินทางในแต่ละวัน

Day 1 : 6 Nov   Sendai airport (SDJ) – Miyagi – Fukushima พักที่ Hotel Sankyo Fukushima

• Sendai airport GPS : https://goo.gl/maps/wkjcf4wUHiUiTbm87
• Budget Rental car GPS : https://goo.gl/maps/Vf4f7ZJpyjP9pkuj7
• Naruko Gorge (จอดฟรี) GPS : https://goo.gl/maps/TeGmJPgbdMV5Nj4L8
• Akiu Great Falls (จอดฟรี) GPS : https://goo.gl/maps/NDqZ32T3VekjTBk29
• Hotel Sankyo Fukushima (ค่าจอด 900 เยน) GPS : https://goo.gl/maps/nMGfSj1XuGh694qn7

day 2 : 7 Nov   Miyagi – Fukushima – Yamagata พักที่ Yamagata Kokusai Hotel

• Bandai – Azuma lake line (จอดฟรี) GPS : https://goo.gl/maps/t1g38NYDPh7BoDuu9
• Nakatsugawa Valley (จอดฟรี) GPS : https://goo.gl/maps/vC6yQj1u2VA5ek4o9
• Goshiki-numa (จอดฟรี) -> Urabandai Visitor Centre (จอดฟรี) -> Bishamon-numa GPS : https://goo.gl/maps/SibTk53Re2twoNrP8
• To-no-Hetsuri (ค่าจอด 500 เยน) GPS : https://goo.gl/maps/Zs82uGm5pgGyaLtc7
• Ouchi-juku (ค่าจอด 500 เยน) GPS : https://goo.gl/maps/NdUKWNVV32F36BfX7
• Yamagata Kokusai Hotel (ค่าจอด 700 เยน) GPS : https://goo.gl/maps/FW5enhYww48XAANX7

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

=========================================
Website ที่มีประโยชน์สำหรับการชมใบไม้เปลี่ยนสี 
1.https://s.n-kishou.co.jp/w/sp/koyo/koyo_top.html สำหรับดูพยากรณ์ทุกสถานที่ทั่วประเทศญี่ปุ่น ค่อนข้างแม่น จะได้เดินทางไม่เสียเที่ยวครับ
2. https://www.japan-guide.com/blog/koyo19: สำหรับดูรูปถ่ายจริงในสถานที่สำคัญทั่วประเทศว่าใบไม้เปลี่ยนสีอยู่ในช่วงไหนและดูย้อนหลังปีก่อนๆได้
3. http://www.tohoku-road-trip.jp/th/: ข้อมูลสำหรับการขับรถในโทโฮคุ
4. https://global.c-nexco.co.jp/en/etc/discount/etc/ : ข้อมูลเกี่ยวกับบัตร ETC card
5. https://www.navitime.co.jp/ : ข้อมูลสำหรับราคาค่าทางด่วนทั่วประเทศของญี่ปุ่น เพื่อประเมินความคุ้มค่า เทียบระหว่างเงินสด กับ ETC card