Iran (ข้อมูลล่าสุดวันที่ 1 เมษายน 2560)
อิหร่านเป็นเหมือนตัวเชื่อมโลกตะวันตกกับโลกตะวันออกเข้าด้วยกัน การไม่มีอิหร่านในเส้นทางสายไหม เหมือนกับกินโรตีสายไหมที่ไม่มีแป้ง แถมยังเป็นอู่อารยธรรมของแท้ ไม่ว่าด้วยเหตุผลใดๆก็ตาม ยังไงอิหร่านต้องอยู่ในลิสต์!!! ยิ่งตอนนี้มีสายการบิน Low cost บินไปจอดถึงที่ แทบไม่ต้องหาเหตุผลใดๆว่าไม่ต้องไปอีกแล้ว ไปกันเถอะครับอิหร่าน
***สำคัญมาก passport ของเราต้องบริสุทธิ์ผุดผ่อง ปราศจากหลักฐานการเดินทางไปประเทศอิสราเอลด้วยประการทั้งปวง ไม่ว่าจะไปด้วยเหตุผลใดๆก็ตาม ไม่งั้นโอกาสที่วีซ่าจะไม่ผ่าน และโดนตัดสิทธิ์ขึ้นบัญชีดำอดเข้าตลอดชีวิต ซวยเลยครับ เพราะอาจจะเกิดขึ้นได้ครับ***
***ให้ทำ passport เล่มใหม่ได้เลยครับ ถ้าจะเข้าอิหร่าน (ในกรณีที่เล่มเดิมนั้นมีวีซ่าอิสราเอลอยู่)***
วีซ่าจะอายุโดยปกติ 3 เดือนนับจากวันที่ลงตราประทับ เราเข้าประเทศไปวันไหน ก็นับไปอีก 30 วัน ทำให้ประเทศอิหร่านค่อนข้างเป็นประเทศที่เที่ยวได้ค่อนข้างสบายไม่ถูกบีบบังคับด้วยกฎเกณฑ์เรื่องวันเวลามากนัก
ระยะเวลาวีซ่า : ได้ตามจำนวนวันที่เราขอไป แต่ไม่เกิน 30 วัน ถ้าต้องการนานกว่านี้ต้องไป extend ต่อครับ
สำหรับคนไทยเรามีทางเลือก 2 ทางสำหรับ visa คือ
Tourist visa แบบปกติ
จำเป็นต้องใช้ Authorization code (คล้ายๆ LOI) ซึ่งตอนนี้ขอได้ 2 วิธีแล้ว คือ
1.ขอผ่านบริษัททัวร์ (Tourist agency) > วิธีแบบดั้งเดิม
บริษัททัวร์ที่ได้รับคำแนะนำมีดังนี้คือ ราคา code อยู่ที่ประมาณ 30-35 Euro
- touranzamin.com > มีคนใช้เยอะ และก็ทำงานได้ตามมาตรฐาน
- key2persia.com > ผมใช้บริการอันนี้ โอเคดีครับ
- iranianvisa.com > อันนี้ห้ามใช้เด็ดขาด โดนโกงกันหลายแล้ว เช็คจาก TripAdvisor ได้ครับ
หลังจากที่เราติดต่อกับ Agency แล้ว เขาจะให้เราโอนเงินเข้าบัญชีของบริษัทเขา ซึ่งบัญชีนั้นจะอยู่ในประเทศที่ 3 เช่นของ Key2persia.com จะอยู่ในเยอรมนี ส่วนของ Touranzamin.com จะอยู่ในสวิตเซอร์แลนด์ ก็ไม่ต้องตกใจไปครับ (อิหร่านโดน sanction ทำให้ไม่สามารถทำธุรกรรมทางการเงินกับโลกภายนอกได้) ซึ่งการโอนเงินเข้าไปก็เหมือนกับการโอนเงินข้ามประเทศครับ มีค่า fee อีกพอสมควรประมาณ 500-1000 บาทต่อ 1 ธุรกรรม ทำผ่านธนาคารในบางสาขาที่ทำได้เท่านั้นครับ
มีจุดหนึ่งสำคัญมากเหมือนกันคือ ตอนที่เราจะขอ code ไปเนี่ย ทาง Agency ก็จะขอสถานทูตที่จะให้เขาส่ง code ไปให้ โดยหลังจากเราได้ code แล้ว เราจะไปต้องยืนยันตัวตนเพื่อทำวีซ่าที่สถานทูตๆนั้น จะเปลี่ยนภายหลังไม่ได้ เช่นเราบอกไปที่กรุงเทพ เราก็ต้องไปทำที่กรุงเทพเท่านั้น
จะเห็นว่าถ้าทำวีซ่าอิหร่านในกรุงเทพก็ดูจะไม่มีปัญหาอะไร ความวุ่นวายจะอยู่ที่ถ้าเราอยู่ในระหว่างการเดินทาง เช่นตอนนี้อยู่ที่ตุรกีกำลังจะเข้าอิหร่านเดือนหน้า เราจะแจ้งไปที่สถานทูตไหนดี ผมมีข้อแนะนำง่ายๆคือ ให้เลือกจุดรับวีซ่าเป็นจุดที่ใกล้เคียงพรมแดนอิหร่านมากที่สุดครับ เช่นที่ Erzurum หรือ Trabzon ในตุรกีครับ แต่ถ้ามาจากทางด้านตะวันออก ทำได้ที่เมือง Dushanbe,Bishkek หรือ Almaty ครับ
หลังจากที่โอนเงินเรียบร้อย ก็รอรับ code จากทางบริษัทครับ ซึ่งจะใช้เวลาประมาณ 7-10 วันทำการโดยที่เราคาดการณ์ไม่ได้ แล้วทาง Agency จะส่ง code กลับมา เราก็เอาไปกรอกใส่ใบคำร้องแล้วก็ไปยื่นที่สถานทูตครับ แล้วก็จ่ายเงินค่าวีซ่าอีกครั้งกับสถานทูตนั้นๆ ซึ่งราคาวีซ่าจะแตกต่างกันไปตามสัญชาติจริงๆ
ค่าวีซ่าของคนไทยจะอยู่ที่ 40-45 Euro ครับ แล้วแต่สถานทูตครับ (ในขณะที่คนอังกฤษเสียถึง 120-150 Euro)
***สถานทูตอิหร่านในกรุงเทพคิด 2,025 บาท นะครับ***
หลังจากไปยื่นที่สถานทูตแล้วก็ต้องรอวีซ่าจริงอีกประมาณ 3-5 วันทำการ (แล้วแต่สถานทูตนั้นๆ) เราก็จะได้วีซ่าตัวจริงมาแบบรู้สึกภูมิใจในความพยายามของตัวเองอย่างมากครับ
ข้อมูลสำหรับการกรอกในแบบฟอร์มขอวีซ่าที่สถานทูตฯ
- Name of an individual or organizations you intend to visit in Iran ควรเขียนเอเจนซี่ที่ติดต่อไว้ให้ชัดเจน (ไม่ควรเว้นว่างไว้เหมือนขอวีซ่าประเทศอื่น)
Intended means of transport and name of travel agency ให้ใส่ชื่อสายการบินครับ
สรุป Timeline การทำวีซ่าที่สถานทูตโดยประมาณ (วันทำการนะครับ ไม่นับเสาร์-อาทิตย์)
- ยื่นส่งเรื่องขอทำ Authorization code ใช้เวลา 1 วัน (ในขั้นตอนนี้เราต้องระบุสถานทูตอิหร่านประจำเมืองนั้นๆที่เราจะไป ซึ่งถ้าแจ้งไปแล้ว จะเปลี่ยนไม่ได้)
- โอนเงินข้ามประเทศ รอการตอบรับ confirm เงินใช้เวลาอีกประมาณ 3 วัน
- รอเวลาจากบริษัทยื่นเรื่องเข้ากระทรวงการต่างประเทศอิหร่านเพื่อขอ code ใช้เวลา 7-10 วัน
- หลังจากนี้ ให้เราคอยเช็คกับบริษัทและสถานทูตอย่างสม่ำเสมอว่าไอ code ที่เราขอไป มันถูกส่งมายังสถานทูตอิหร่านประจำเมืองที่เราจะไปขอหรือยัง จะไม่ได้ไปสถานทูตเก้อครับ
- นำ code มายื่นขอวีซ่าจากสถานทูตใช้เวลา 3-5 วัน ขึ้นกับความดราม่าของแต่ละที่
- สรุปใช้เวลาประมาณ 1 เดือน สำหรับทุกๆขั้นตอน อาจจะเร็วหรือนานกว่านี้ขึ้นกับความเร็ว/ช้าของหน่วยงานราชการของทางอิหร่านครับ
สรุปค่าใช้จ่าย
- ค่า Authorization code 30 Euro ~ 1,200 บาท
- ค่า Transfer fee โอนเงินข้ามประเทศ ~ 500 บาท
- ค่าทำ Visa ที่สถานทูตอิหร่าน ~ 1,600 บาท
- รวมค่าใช้จ่ายประมาณ ~ 3,300 บาท
2. ทำผ่านระบบ E-Visa (พึ่งเริ่มใช้บริการปี 2560 นี้)
ถือเป็นความเฮงขั้นสูงสุดที่ตอนนี้กระทรวงการต่างประเทศอิหร่านได้ปรับตัวเข้าสู่ยุค Iran 4.0 อย่างเต็มรูปแบบด้วยการอนุญาตให้นักท่องเที่ยวขอ Code ผ่านทางเว็บไซต์ http://e_visa.mfa.ir/en นี้ได้แล้วครับ
โดยหลักการของที่นี่คือ เราเข้าไปกรอกข้อมูลเอง และก็เลือกสถานที่รับวีซ่าได้เองในประเทศที่มีสถานทูตอิหร่านอยู่ แล้วสุดท้ายเราจะได้เป็น Tracking Code ซึ่งสามารถเอาเลขนี้ไปเช็คสถานะวีซ่าของเราผ่านในเว็บไซต์ได้เช่นเดียวกันนะครับ
บางคนอาจจะถูกเรียกไปสัมภาษณ์ถ้าสถานทูตมีข้อสงสัย แต่บางคนก็ผ่านฉลุยได้วีซ่ามาเลยโดยที่ไม่โดนเรียกครับ โดยปกติจะใช้เวลาประมาณ 10-14 วันทำการครับ
ขั้นสุดท้ายก็คือการชำระค่าธรรมเนียมทั้งหมดที่สถานทูต 40 ยูโร นะครับ
ข้อดีของวิธีนี้คือ เราจะประหยัดเงินค่าทำวีซ่ากว่าแบบขอ code จากต่างประเทศมาก และระยะเวลาในการได้วีซ่าก็สั้นกว่าครับ แนะนำวิธีนี้ครับ
หลักฐานสำคัญที่ต้องเตรียมไปยื่น มีดังนี้
- ตั๋วเครื่องบินไปกลับ ถ้าทำจากกรุงเทพ ของผมทำที่ตุรกีแล้วจะออกจากอิหร่านเข้าเติร์กเมนิสถาน ไม่มีหลักฐานอะไรทั้งนั้นก็ทำได้ครับ
- แผนการเดินทาง เขียนไว้คร่าวๆ แต่ถ้าจะขอกี
- ประกันการเดินทาง (เลือกบริษัทที่เขารับรองประเทศอิหร่านด้วยนะครับ ตอนนั้นผมใช้ไทยวิวัฒน์นะครับ ไม่มีปัญหาใดๆ)
- Résumé or Curriculum Vitae อันนี้จำเป็นเฉพาะสำหรับการทำ E-Visa ครับ
Visa on arrival <<< Recommended!!!
เป็นวิธีที่ผมแนะนำสำหรับนักท่องเที่ยวไทย “ที่จะไปอิหร่านโดยใช้เครื่องบิน”
สนามบินที่สามารถขอ Visa on arrival ได้ (ไม่สามารถขอวีซ่าทาง land border ได้นะครับ)
- Imam Khomeini (Tehran) > สนามบินหลักของประเทศ เป็นที่ๆ AirAsia บินมาลงครับ
- Mehrabad (Tehran)
- Isfahan
- Shiraz,
- Mashhad
- Tabriz
เนื่องจากมีเครื่องบินเส้นทาง Bangkok – Tehran อยู่แล้ว เราสามารถทำวีซ่าที่สนามบิน Imam Khomeini กรุงเตหะราน หรือที่ Mehrabad ได้ ตอนนี้มีการบินไทย เปิดเส้นทางบินมาเตหะรานแล้ว คนไทยน่าจะมาเที่ยวที่อิหร่านเยอะขึ้นมากเรื่อยๆครับ ตอนนี้สามารถขอวีซ่าได้จำนวน 30 วันเช่นเดียวกัน
วิธีนี้มีข้อดีคือ เราไม่ต้องทำ Authorization code ที่สุดแสนจะวุ่นวาย และประหยัดเงินได้พอสมควร
วิธีนี้ในอดีตมีความไม่แน่นอนสูงเพราะบางคนไปถึงสนามบินแล้วมีปัญหา แต่ในช่วงระยะเวลาที่ผ่านมา (เมษายน 2560) คนไทยจำนวนมากไม่มีปัญหากับวิธีนี้อีกแล้ว จึงแนะนำอย่างมาก
แต่หลักฐานสำคัญที่ต้องเตรียมไปยื่น มีดังนี้
- ตั๋วเครื่องบินไปกลับ
- หลักฐานการจองที่พักในคืนแรก
- แผนการเดินทางทั้งหมดจะไปกี่วัน เขียนไปให้ครบ เที่ยวที่ไหน นอนที่ไหน วิธีการเดินทาง ภาษาอังกฤษ > จากข้อมูลล่าสุดจากคนที่พึ่งกลับมาบอกว่าใช้เวลาไม่เกิน 30 นาที ขึ้นอยู่ว่าคนเยอะหรือไม่ ไม่ต้องกรอกแบบฟอร์มอะไรเลย แค่เซ็นต์ชื่อรับ หนังสือเดินทางกลับ
- ประกันการเดินทาง ต้องไปซื้อที่สนามบินตอนก่อนจะถึงช่องยื่นวีซ่าครับ ราคา 14 Euro (ประกันการเดินทางจากเมืองไทยไม่สามารถใช้ได้ เช่น ไทยวิวัฒน์)
สรุปค่าใช้จ่าย
- ค่าทำ Visa ที่สนามบิน ~ 75 Euro
- ค่าประกันภัย ~ 15 Euro
- รวมๆ ก็ประมาณ 75-90 Euro นะครับ ราวๆ 3,000 – 3,500 บาท
เทคนิคการขอวีซ่าอิหร่าน
- ในใบสมัครขอวีซ่า ช่องอาชีพ ให้ใส่เป็นอาชีพที่ดูดีและปลอดภัย เช่น ครู หมอ อะไรแบบนี้ครับ ห้ามใส่พวกนักข่าว ช่างภาพ สื่อมวลชน ทหาร อะไรแบบนี้เด็ดขาด
- จุดประสงค์หลักในการเดินทาง ให้ใส่ว่ามา “ท่องเที่ยว”
- ในแผนการเดินทาง อย่าเขียนว่าจะเดินทางไปที่ๆประหลาดและเป็นชนวนความขัดแย้งเช่น แคว้น Sistan and Baluchestan (แต่หลังจากที่เราเข้าไปในอิหร่านได้แล้ว เราจะไปที่ไหนก็ได้ครับ)
Visa extension
เกิดเที่ยวแล้วติดลม 30 วันอาจจะไม่พอ อิหร่านก็เป็นอีกหนึ่งประเทศที่เราสามารถต่อวีซ่าได้ง่ายมาก โดยต้องไปทำที่ OVIR ในแต่ละเมืองสำคัญดังนี้ เช่น Mashhad, Esfahan, Shiraz, Tehran เป็นต้นครับ โดยที่เราสามารถต่อได้ 2 ครั้งหมายความว่าอยู่ได้นานถึง 90 วันครับ
หากใครสนใจอุปกรณ์การเดินทาง เป้แบคแพค เสื้อแจ็คเก็ตกันลมกันฝน เสื้อขนเป็ด ลองจอน ถุงมือกันหนาว
สามารถเข้าไปเลือกชมสินค้าได้ที่ ร้านของพวกเรา The Puffin House