ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมานี้ ไต้หวันจัดว่าเป็นประเทศที่คนไทยไปเที่ยวเยอะมาก เพราะไปง่าย (นั่งเครื่องบินไปแค่สามชั่วโมงครึ่งก็ถึง ) เที่ยวง่าย แล้วแถมยังฟรีวีซ่าให้คนไทยอีก
ส่วนค่าใช้จ่ายในการกินอยู่ ก็พอๆกับบ้านเรา มีที่เที่ยวน่าสนใจเยอะ
ทั้งแบบเมืองสวยๆ & ธรรมชาติชิลล์ๆ และที่สำคัญที่สุด ของกินอร่อยๆเพียบ!
แน่นอนว่า เมืองที่ได้รับความนิยม ก็คือไทเป เมืองที่ใหญ่ที่สุดของไต้หวันซึ่งอยู่ทางเหนือ
แต่ๆๆ รู้ไหมว่าเมืองที่ใหญ่ที่สุดทางภาคใต้ และเป็นเมืองที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของไต้หวันนั้น
ก็น่าไปเที่ยวสุดๆเหมือนกัน
คือ เมือง “เกาสง” Kaohsiung
ทำไม “เกาสง” ถึงน่าไปโดน ?
ก็ถ้าคุณอยาก…..
…ชมวิวสวยๆของเมืองท่า ตากอากาศสบายๆ
…หาที่ชิลล์ๆ หรือโรแมนติก
…มีมุมถ่ายรูปสุดอาร์ตมากมาย
…กินอาหารอร่อยๆ
…ค่าใช้จ่ายไม่แพง
…เดินทางสะดวก
…และมีหลายๆอย่างที่คุณต้องมาสัมผัสเองแล้วจะหลงรัก
เกาสง นี่แหละ คือคำตอบที่คุณควรมาลอง!
ในเมืองเกาสง มีที่ไหนน่าเที่ยวบ้าง จดลิสต์ตามนี้ได้เลย…
สถานที่ที่ต้องไปเชคอิน ไม่งั้นเหมือนมาไม่ถึงเกาสง
- 85 Sky Tower
สัญลักษณ์ของเมืองเกาสง ถ้าเทียบกับไทเป ก็เหมือนกับตึก 101 นั่นเอง… ข้างในตึกมีทั้งร้านอาหาร และส่วนหนึ่งเป็นโรงแรม ราคาห้องต่างๆกันไป เริ่มต้นที่พันต้นๆต่อคืนก็มี ถ้าอยากจะได้บรรยากาศวิวสวยๆ ก็ลองมาพักได้เลย แต่ถ้าอยากแค่ขึ้นตึกไปชมวิวเฉยๆ ก็สามารถขึ้นไปที่ชั้น 75 โดยเสียค่าเข้า 150 NT
การเดินทาง : โดย KMRT สายสีแดง (รถไฟใต้ดินของเมืองเกาสง) แล้วลงสถานี Sanduo Shopping District ทางออกที่ 2 แล้วเดินต่อมาเรื่อยๆ
จาก KMRT เราเดินมาจนถึงสถานี LRT ซึ่งเป็นรถไฟฟ้าขนาดเล็กในเมือง ก็จะได้ถ่ายรูปตึกใกล้ๆแบบมุมนี้ และแถวนี้ยังมีสถานที่น่าสนใจอีกหลายจุด สามารถเดินเล่นไปเรื่อยๆได้เลย
จุดที่เราถ่ายรูปนี้อยู่ที่แถวสถานี LRT Cruise Terminal (C9)
มีสะพานสวยๆ และท่าเรือให้เดินเล่นชิลล์ๆ และถ่ายรูปได้ด้วย
เดินมาอีกนิด จะเห็นตึกดูอลังการ นั่นคือ Kaohsiung Exhibition Center ที่เค้าไว้จัดงานประชุม หรืองานแสดงต่างๆ (สามารถนั่ง LRT มาลงที่สถานี Kaohsiung Exhibition Center (C8) ได้เลย)
อีกสถานที่แถวนั้นที่เราชอบมาก นั่นคือ หอสมุด Kaohsiung library
เดินเข้ามาข้างในจะเห็นการตกแต่งที่โมเดิร์นมาก และเงียบสงบ มีหนังสือให้อ่านเยอะมาก หลากหลายประเภท แบ่งเป็นหลายหมวดหมู่ในแต่ละชั้น
จุดที่เราชอบที่สุด คือ บนดาดฟ้าหอสมุด มีที่ให้นั่งดูวิวชิลล์ๆได้
แนะนำให้มาตอนเย็นๆ หรือ ถ้ามาตอนพระอาทิตย์ตกนี่ ฟินมากขอบอก เพราะเป็นอีกจุดที่ถ่ายรูปพระอาทิคย์ตกได้สวยเลยหล่ะ…จากบนนี้สามารถมองเห็นท่าเรือ ตึกสวยๆแถวนั้น และ 85 Sky Tower ได้ใกล้ๆ
อยากชิลล์ขั้นสุด ให้มาที่นี่
- Cijin Island
การเดินทาง : KMRT สายสีส้ม แล้วลงสถานี Sizihwan ทางออกที่ 1 จากนั้นเดินไปที่ท่าเรือ Gushan Ferry Pier เพื่อขึ้นเรือ ferry
ตรงนี้ แนะนำว่าตอนที่ออกมาจากสถานี KMRT ให้เช่าจักรยานตรงนั้นเลย เพราะต้องเดินมาขึ้นเรือไกลนิดนึง ถ้าเช่าจักรยานจากหน้าสถานีรถไฟใต้ดิน เราก็สามารถถีบไป-กลับได้สบายกว่า (ราคาเช่าจักรยานก็ประมาณ 100 NT/1วัน) จักรยานที่เช่าจะมีที่ล็อคให้อยู่แล้ว ไม่ต้องกังวลเวลาที่เราจะต้องจอดไว้แล้วไปถ่ายรูปไกลๆ และก็มักจะมีแผนที่บนเกาะมาให้ว่าเราควรถีบไปไหนบ้าง
เมื่อนั่งเรือข้ามฟากมาที่เกาะนี้แล้ว เราก็ขี่จักรยานลุยตามแผนที่เลย…ที่เกาะนี้ ชิลล์มาก ได้สูดกลิ่นอายของธรรมชาติแบบเต็มๆ
วิวบนเกาะ มีหลายจุดสำหรับถ่ายรูปสวยๆ
มีชายหาดให้เดินเล่นผ่อนคลาย
การขี่จักรยานรอบเกาะจะใช้เวลาประมาณ 3–4 ชั่วโมง (แต่ถ้าหยุดถ่ายรูปนาน ก็บวกเวลาไป)
แต่แนะนำว่าให้กะเวลาไว้ทั้งวันเลย เพื่อนั่งดูพระอาทิตย์ตกดินบนเกาะนี้…ทั้งชิลล์ โรแมนติก และสวยสุดๆ เพราะสามารถมองเห็นวิวตึก 85 sky tower ที่อยู่อีกฟากได้
- Banana Pier
การเดินทาง : KMRT สายสีส้ม แล้วลงสถานี Sizihwan ทางออกที่ 2 เดินมาประมาณ 5 นาที
Banana Pier นี่มองเห็นได้ชัดมาก เพราะเป็นโกดังสีเหลือง อยู่ไม่ไกลจาก Pier-2 Art Center
ข้างในจะมีร้านอาหาร ร้ายขายขนม และของที่ระลึก
วิวตอนกลางคืนก็สวยนะ
- KW2 Warehouse
การเดินทาง : KMRT สายสีส้ม แล้วลงสถานี Sizihwan ทางออกที่ 2 เดินมาประมาณ 5 นาที (อยู่ตรงข้าม Banana Pier เลย)
เป็นโกดังแนวๆ ข้างในก็จะขายของแนวๆ พวกงานอาร์ต งานแฮนด์เมดต่างๆ
อีกทั้งมี ร้านอาหาร คาเฟ่เยอะแยะเลย
บรรยากาศตอนกลางคืน
คนส่วนใหญ่จะมาที่นี่เพื่อนั่งดู และถ่ายรูปพระอาทิตย์ตกดินกัน
จุดที่ชอบคือ เราสามารถนั่งดูพระอาทิตย์ตกดิน ไปพร้อมๆกับตากแอร์เย็นๆในโกดังได้ด้วย ไอเดียดีสุดๆ
- The British Consulate at Takow
การเดินทาง : KMRT สายสีส้ม แล้วลงสถานี Sizihwan ทางออกที่ 2 หรือ LRT Hamasen (C14) แล้วต่อรถบัสสาย 99 ไปลงที่ป้าย Syongjhen North Gate หรือ Sizihwan ก็ได้
ค่าเข้าชม : ราคา 99 NT แต่ส่วนหางบัตรมูลค่า 50 NT จะสามารถนำไปลด ราคาเครื่องดื่ม หรือของที่ระลึกภายในได้
เวลาเปิด-ปิด : 9.00 – 21.00 น. (ปิดทุกวันจันทร์ที่ 3 ของเดือน)
ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ website : britishconsulate.khcc.gov.tw
ที่นี่คือ สถานกงศุลเก่าของอังกฤษ เป็นอาคารสไตล์ตะวันตกที่เก่าแก่ที่สุดในไต้หวัน
จุดชิลล์ของที่นี่ คือสามารถนั่งชิลล์ จิบชาไปพร้อมๆกับชมวิวเมืองเกาสงแบบพาโนราม่า (ที่นี่มีร้านชา และมีชามากมายให้เลือกซื้อ) หรือจะมานั่งดูวิวพระอาทิตย์ตกที่นี่ก็สวยทีเดียว
- Xizi Bay
การเดินทาง : KMRT สายสีส้ม แล้วลงสถานี Sizihwan หรือ จาก The British Consulate at Takow ลงมารถเดินลงมาที่หาดนี้ได้เลย
ที่ชายหาด Xizi นี้ เราขอยกให้เป็นที่สุดชิลล์ แถมเป็นจุดที่สามารถมองเห็นพระอาทิตย์ตกได้สวยสุดๆ…ถ้ามากับคนรู้ใจนี่รับรองได้ว่าโรแมนติก ฟินสุดๆ ไม่แปลกที่ตกเย็นเราจะเห็นคนมาดูพระอาทิตย์ด้วยกันเป็นคู่ๆเลยหล่ะ
- Kaohsiung Central Park
การเดินทาง : KMRT สายสีแดง แล้วลงสถานี Central Park Station
Kaohsiung Central Park เป็นสวนสาธารณะใจกลางเมือง อยู่ใกล้ห้างใหญ่ๆในแถวเขต Shinkuchan Entertainment แต่เงียบสงบ และห้อมล้อมไปด้วยต้นไม้ร่มรื่น คนเลยมักพากันมาออกกำลังกายที่นี่
ที่นี่ยังมีการแสดงน้ำพุประมาณ 10 นาที ที่ลานหน้าสถานี KMRT
ซึ่งเค้าจะเปิดเป็นรอบๆทุกชั่วโมง ตั้งแต่ 8.30 น. ถึง 21.30 น.
สถานที่โรแมนติกยามค่ำคืน
- Love River
แม่น้ำ Love River นี้จะทอดยาวไปจนถึงท่าเรือ โดยจะมีบริการเรือสำหรับนักท่องเที่ยวถ้าอยากล่องเรือชมบรรยากาศเมืองตอนกลางคืน
บางคนก็จะมานั่งริมแม่น้ำ หรือยืนดูวิวบนสะพานก็ได้
สำหรับจุดที่เราถ่ายรูปนี้อยู่ที่สถานี LRT Love Pier (C11)
ช่วงเวลาที่แนะนำคือ ช่วงพระอาทิตย์ตก ไปจนถึงยามค่ำคืน ที่จะได้เห็นแสงสีของเมือง และแสงไฟหลากสีของสะพานตกกระทบกับผิวน้ำ
เมื่อดูจากบนสะพานข้ามแม่น้ำ อีกฝั่งจะเห็นเป็นวิวตึก 85 sky tower และตึกรอบๆ
แหล่งเสพงานอาร์ต และหาไอเดียความคิดสร้างสรรค์
- Pier 2 Art Center
การเดินทาง : KMRT สายสีส้ม แล้วลงสถานี Yanchengpu Station ทางออก 1 หรือ Sizihwan Station ทางออก 2
หรือ LRT Penglai Pier-2 Station (C13) >> แนะนำมาลงที่นี่ใกล้กว่า
ที่นี่มีงานอาร์ตต่างๆมากมาย สามารถถ่ายรูปได้เกือบทุกจุดเลยทีเดียว โดยมักจะมีพวกงานแสดง และ ดนตรีโชว์ต่างๆมาจัดที่นี่ นอกจากนี้ยังมีร้านขายของเก๋ๆ ร้านคาเฟ่ ร้านขายอาหารอร่อยๆมากมายในนี้ด้วย
อย่างเช่น ร้านหนังสือ Eslite ที่มีขายทั้งหนังสือ ของที่ระลึกเก๋ๆข้างใน
จุดถ่ายรูปสุดฮิต คือรูปรางรถไฟ LRT ที่มีตึก 85 sky tower เป็นฉากหลัง
อ้าวรถไฟ LRT มาแล้ว…อย่ามัวแต่ถ่ายเพลินหล่ะ ต้องคอยดูรถด้วย 🙂
ที่นี่มีงาน artworks เยอะมากจริงๆ รับรองว่าได้มุมถ่ายรูปเก๋ๆเพียบ
งาน Graffiti แนว 3D ก็เยอะเช่นกัน
- Takao Railway Museum
การเดินทาง : KMRT สายสีส้ม แล้วลงสถานี Sizihwan Station ทางออก 2
หรือ LRT Hamasen (C14)
เวลาเปิด-ปิด : 10.00 – 18.00 น. (ปิดทุกวันจันทร์)
เดิมที่นี่เป็นสถานีรถไฟแห่งแรกในเมืองเกาสง แต่ได้ถูกทำลายจากการทิ้งระเบิดสมัยสงครามโลกครั้งที่สอง ซึ่งต่อมาก็ได้มีการบูรณะ ซ่อมแซม และเปิดให้เข้าชมเป็นพิพิธภัณฑ์รถไฟ และสวนรางรถไฟ
สำหรับเด็กๆ ก็มีรถไฟขนาดเล็กให้ได้นั่งเล่นสนุกเพลินๆ
จากที่นี่ สามารถมองเห็น ตึก 85 sky tower สัญลักษณ์ของเมืองเกาสงได้เหมือนกัน
- Dome of Light
การเดินทาง : โดย KMRT แล้วลงสถานี Formosa Boulevard
Dome of Light เป็นประติมากรรมกระจกที่ใหญ่ที่สุดในโลก ซึ่งอยู่ภายในสถานีรถไฟใต้ดินเลย
ทำให้ที่นี่ได้รับการจัดอันดับจากเวบไซต์ท่องเที่ยวชื่อดัง “BootsnAll” ว่า Formosa Boulevard Station เป็นสถานีรถไฟใต้ดินที่สวยเป็นอันดับสองของโลกเลยทีเดียว
อยากไปดูสถานที่ unseen แปลกตา
- The Tian Liao Moon World
การเดินทาง : KMRT แล้วลงสถานี Gangshan South Station แล้วต่อรถบัสสาย Red 70 B ไปลงที่ป้าย Moon World bus station
(รถบัสนี้จะใช้เวลารอค่อนข้างนาน และเวลาเดินทางก็ใช้เวลาประมาณ 45-60 นาที ต้องวางแผนเผื่อเวลากันไว้ด้วย เพราะรถบัสรอบสุดท้ายที่กลับมาจาก Moon World จะหมดเวลา 19.00 น. เช็คเวลากันให้ดีน้า เดี๋ยวจะตกรถได้)
สำหรับนักท่องเที่ยวสายธรรมชาติ ต้องไม่พลาดที่นี่…โลกแห่งพระจันทร์
แต่ต้องเดินทางออกนอกเมืองมาสักหน่อย
ที่นี่จะมีลักษณะภูมิประเทศที่แปลกตา เพราะเกิดจากดินภูเขาไฟในบริเวณนั้น เวลาถ่ายรูปออกมาก็จะเสมือนเราอยู่บนดวงจันทร์
ภายใน Moon World มีหลายเส้นทางเทรลให้เดินชมความงามรอบๆ
แหล่งอาหารอร่อยๆ กินจนตัวแตก
- Liouhe Night market
การเดินทาง : KMRT แล้วลงสถานี Formosa Boulevard
ตลาดลิ่วเหอ เป็นตลาดกลางคืนที่เน้นขายอาหารพื้นเมืองของเกาสง…อาหารทะเลนั่นเอง มีหลายร้านให้เลือก
มีอาหารทะเลมากมากให้เลือก เราสามารถเลือกได้ว่าจะให้นำมาปรุงแบบไหน….อร่อย และสดๆทั้งนั้น
คือ อาหารทะเลเยอะมากจนลายตา
ถ้าจิบคู่กับเบียร์ Taiwan Beer นี่เด็ดสุดไปเลย แนะนำๆ
วันนั้นเราสั่ง ปลาหมึกย่างกับวาซาบิ ก็ไม่คิดว่าจะเข้ากันนะ…แต่ว่า มันอร่อยอ่ะ!
เครื่องดื่มที่ชอบมากคือ ชาตงกวา-มะนาว (มีขายทั่วไต้หวัน)
มีกลิ่นหอมๆของชาตงกวา ผสมรสเปรี้ยวสดชื่นของมะนาว อร่อยมากกกก
ไม่ได้มีแค่อาหารทะเลนะ อาหารอย่างอื่นก็มี
- Ruifeng Night Market
การเดินทาง : KMRT (สายสีแดง) แล้วลงสถานี Kaohsiung Arena ทางออก 1
ขอบอกว่า ตลาดนี้คือเลิศมาก! ถูกใจวัยโจ๋สุดๆ เพราะของกินเยอะมาก (อร่อยมากด้วย ตาลายไปหมด ตัดสินใจไม่ถูกเลยว่าจะกินอะไรก่อน 55) ของช้อปวัยรุ่นๆก็เยอะ (ตลาดจะปิดวันจันทร์ และพุธ นะ)
ของกินเยอะจนตาลาย ท้องร้องกันตั้งแต่เหยียบเข้าตลาดเลยทีเดียว ถ่ายรูปมายังไงก็เก็บไม่หมด ฮ่าๆ
อันนี้อร่อยมากเว่อร์!!! โมจิสดนั่นเอง คือมันนิ่มมากกกก ละมุนสุดๆ อร่อย เข้มข้น ต้องมาโดน!
นอกจากอาหาร ก็มีร้านขางของ เช่น เสื้อผ้าสวยๆมากมายให้ช้อป ราคาก็ไม่ได้แพงมาก
- อาหารเช้าสไตล์ไต้หวัน
มีหลายร้าน (คนที่นี่ไม่ค่อยกินข้าวเป็นอาหารเช้ากัน ส่วนใหญ่จะเป็นซาลาเปา ขนมปัง เสี่ยวหลงเปา เกี๊ยวนึ่ง ออกแนวเน้นแป้ง) …โดยเราเลือกไปกินร้านนี้ เพราะเค้าว่าซาลาเปาหมูอร่อย
พิกัดสำหรับร้านนี้ : Xing Long Ju
No. 186, Liuhe 2nd Road, Qianjin District, Kaohsiung City
อีกเมนูเด็ดของที่ร้าน น้ำเต้าหู้รสเค็ม
- ของหวานสไตล์ไต้หวัน
ที่เราไปลองคือ น้ำแข็งไสน้ำตาลทรายแดง โปะด้วยพุดดิ้งไข่ข้างบน….อร่อยมากๆๆๆ
(รู้จักร้านนี้จากการตามล่าหาของกินตาม Instagram เลย แนะนำว่าให้ลองวิธีนี้ แล้วจะเห็นของกินที่น่าลองมากมายแบบอัพเดท พร้อมพิกัดด้วย) ปลื้มมาก
พิกัดสำหรับร้านนี้ : Q陳古早黑砂糖剉冰-高雄旗艦店
No. 147號, Wufu 1st Road, Lingya District, Kaohsiung City
คือฟินมาก หอมน้ำตาลทรายแดงสุดๆ แนะนำเลยร้านนี้!
แหล่งช้อปปิ้ง ละลายทรัพย์
- Shinkuchan Commercial District
การเดินทาง : KMRT (สายสีแดง) แล้วลงสถานี Central Park ทางออก 3
แถบนี้จะมีห้างใหญ่ๆ และมีตลาดกลางคืน โดยเน้นเป็นพวกเสื้อผ้า รองเท้า แหล่งบันเทิงต่างๆ มีขายอาหาร street food นิดหน่อย ส่วนใหญ่จะเป็นร้านอาหารเลยมากกว่า
- E-DA World
การเดินทาง : โดย KMRT (สายสีแดง) แล้วลงสถานี Zuoying ทางออก 1
จากนั้นนั่งรถบัสที่เขียนว่า E-DA bus
ที่ E-DA World มีทั้งห้าง Outlet ขนาดใหญ่ (E-DA outlet mall), โรงแรม, ร้านอาหาร และมีสวนสนุก E-DA theme park ด้วย เรียกได้ว่าที่นี่มีกิจกรรมสำหรับทุกเพศทุกวัย เลย
มีสวนสนุก เครื่องเล่นหวาดเสียวให้ได้หลั่งอะดรีนาลีนกัน
สำหรับสายบุญ อยากเข้าหาความสงบในจิตใจ
- วัด Fo Guang Shan
การเดินทาง : โดย KMRT (สายสีแดง) แล้วลงสถานี Zuoying ทางออก 1 (จุดรอรถบัสสาย 8501 อยู่ที่หน้าสถานี Zuoying เลย) จากนั้นนั่งรถบัสสาย 8501 ไปลงที่สุดสาย
วัดนี้เป็นวัดพุทธที่มีชื่อเสียงของเมืองเกาสง แถมในวัดยังมีสถาปัตกรรมสวยงามให้ได้เดินดู และถ่ายรูป
จุดไฮไลต์คือ พระพุทธรูปขนาดใหญ่ที่สูงถึง 108 เมตร
ที่อาคารทางเข้าวัด มีร้านอาหารมังสวิรัติอร่อยๆ และร้านขายขนม ของที่ระลึก
ก่อนกลับ เราเลยจัดไอติมชาไป เข้มข้นมากๆ มีชาให้เลือกหลายรสเลย
- Lotus Pond (Lianchitan)
การเดินทาง : KMRT (สายสีแดง) แล้วลงสถานี Zuoying ทางออก 1 จากนั้นนั่งรถบัสสาย
Red51B หรือ Red35 ไปลงที่ป้าย Lianchitan Station
จุดเด่นคือ สระดอกบัว กับเจดีย์คู่มังกร และเสือ โดยข้างในเจดีย์จะมีรูปปั้นเซรามิก สามารถเดินชมไปได้เรื่อยๆจนถึงส่วนชั้นบนสุดจะเป็นจุดชมวิว
…นอกจากนี้ฝั่งตรงข้ามยังเป็นวัดฉือจี้ ข้ามไปไหว้ขอพรกันได้
การเดินทางไปเมืองเกาสง
- รถไฟความเร็วสูง (THSR) : คือการนั่งรถไฟความเร็วสูงจากไทเป หรือ จากเมืองอื่นๆของไต้หวันก็ได้นะ มาลงที่สถานี Zuoying station ของเมืองเกาสง (ระยะเวลาเดินทางจาก เมืองไทเปมาเกาสง ประมาณ 87 นาที) ขอบอกว่าปลื้มรถไฟความเร็วสูงของไต้หวันมาก เพราะสะอาด นั่งสบาย ตรงเวลาเป๊ะๆ
- เครื่องบิน บินตรง กรุงเทพฯ-เกาสง : ถ้าอยากจะเดินทางจากประเทศไทยมาที่เมืองเกาสงโดยตรงก็ได้นะ เพราะ ปัจจุบันมีเที่ยวบินจากกรุงเทพฯ มาลงที่สนามบินของเมืองเกาสงเลย (สำหรับคนที่มีเวลาเที่ยวไม่กี่วัน และอยากจะมาที่เกาสงเลย ขอแนะนำให้บินมาเที่ยวโดยตรงเลยค่า)
- รถบัส : สำหรับคนที่ไม่เร่งรีบ อยากประหยัดเงิน ก็สามารถนั่งรถบัส จากไทเปมาที่เกาสง แต่จะใช้เวลาประมาณ 4.30 ชั่วโมงเลย
การเดินทางภายในเมืองเกาสง บอกได้เลยว่าสะดวกสบายมาก ไม่แพ้ไทเปเลยหล่ะ
- KMRT (Kaohsiung MRT) โดยสามารถใช้บัตร i-Pass หรือ Easy card ก็ได้
- LRT (Kaohsiung Light Rail) เป็นรถไฟขนาดเล็ก แต่เข้าถึงแหล่งท่องเที่ยวต่างๆหลายที่เลย
นี่คือแผนที่ของรถไฟใต้ดินในเมืองเกาสง KMRT และ LRT
- CityBike (C-bike) เป็นจักรยานให้เช่าภายในเมือง มีหลายจุดให้เช่าตามสถานีรถไฟใต้ดิน หรือแหล่งท่องเที่ยวต่างๆ การเช่าจะสามารถใช้บัตร i-Pass ที่ลงทะเบียนแล้ว หรือบัตรเครดิตก็ได้
- นอกจากนี้ในเมืองเกาสงยังมีรถบัส แท็กซี่ และ เรือเฟอรี่ข้ามฟากไปยังแหล่งท่องเที่ยวต่างๆอีกด้วย
- ความสะดวกสบายอื่นๆ :
เช่น ล็อคเกอร์เก็บของ ซึ่งมีอยู่ทั่วไปตามสถานีรถไฟใต้ดิน
- ภาษา : ที่เมืองนี้ใช้แต่ภาษาจีนค่อนข้างเยอะกว่าไทเป แต่อย่ากลัวไปค่ะ คนไต้หวันใจดี….พยายามใช้ google translate สื่อสารกัน ก็สนุกเฮฮาดี 🙂
ทริปเที่ยวเมืองเกาสงนี้ ขอบอกว่าเราชอบมากๆ ทั้งได้ “ช้อป ชิม ชิลล์” แบบแฮปปี้ Slow life สุดๆ
อยากให้ทุกคนได้มาลองสัมผัสด้วยด้วยคุณเอง รับรองว่าจะต้องได้รับความประทับใจดีๆกลับไปอย่างแน่นอน
