“เวียดนาม” สวยๆแบบนี้ ไม่ไปได้ไง

0
3306

APG-1016-BTTB-TH-Social-Assets_FB_1200x627_VN_V1_XY

เมื่อเร็วๆนี้ Skyscanner เสิร์ชเอ็นจิ้นหรือผู้ให้บริการค้นหาตั๋วเครื่องบินโรงแรมและรถเช่าชั้นนำของโลก ได้มาสัมภาษณ์ผมเองในโครงการ Best Time to Book ซึ่งเผยให้รู้เกี่ยวกับช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการจองตั๋วเครื่องบินไปยังประเทศยอดนิยมของคนไทยและจัดทำคู่มือท่องเที่ยวไปยังแต่ละประเทศ  โดยผมได้รับโอกาสในการพาเพื่อนๆเที่ยวยังประเทศเพื่อนบ้านของเราที่มีชื่อว่า “เวียดนาม” กัน

มาดูกันว่า “เวียดนาม” มีอะไรที่จะทำให้เราประทับใจไม่มีวันลืมกันบ้างครับ


สุดยอดเมืองที่ประทับใจที่สุด

“เวียดนามเป็นประเทศแคบๆ ยาวๆ แบ่งเป็นภาคเหนือซึ่งมีแต่ภูเขา ภาคกลางจะเป็นเมืองวัฒนธรรม ส่วนภาคใต้จะมีความเจริญและชายหาดสวยๆ เรียกได้ว่ามีสามภาคสามอารมณ์ที่แตกต่างกัน เริ่มต้นกันเลยดีกว่าครับ”

ฮานอย (Hanoi)

vietnam-hanoi-water-puppet

“เมืองหลวงของเวียดนาม มีเสน่ห์ตรงที่เป็นแหล่งรวมของทุกๆ อย่าง มีทั้งเวียดนามยุคใหม่กับยุคเก่ามาเจอกัน และเป็นจุดเริ่มต้นของชาติเวียดนาม” ที่นี่มีอากาศเย็นสบาย มีที่เที่ยวที่มีความหมายสำคัญๆ เช่น สุสานโฮจิมินห์ (Ho Chi Minh Mausoleum) ทะเลสาปคืนดาบ (Hoan Kiem Lake) วิหารวรรณกรรม (Van Mieu) โรงละครหุ่นกระบอกน้ำ (Municipal Water Puppets)

ซาปา (Sa Pa)

vietnam-sapa

เมืองสวยที่อยู่บนภูเขา ในสมัยก่อนมีอาณานิคมฝรั่งเศสมาตั้งรกรากที่นี่และมีสิ่งก่อสร้างบ้านเรือนที่เป็นสถาปัตยกรรมฝรั่งเศส มีบรรยากาศแบบยุโรปอากาศเย็นสบายตลอดปี และมียอดเขา Fansipan ซึ่งเป็นยอดเขาที่สูงที่สุดในเวียดนาม มีจุดชมวิวที่มองเห็นเมืองทั้งเมือง ยิ่งถ้าไปตอนเช้าๆ ก็จะเห็นทะเลหมอกปกคลุมเมืองอยู่ เป็นที่ที่เหมาะกับการไปฮันนีมูนดื่มน้ำผึ้งพระจันทร์

ด่าหลัด (Dalat)

vietnam-dalat

เมืองบนภูเขาทางตอนใต้ของประเทศ เป็นเมืองหลวงเก่าในสมัยยุคที่ฝรั่งเศสปกครองก็เลยมีพวกสถาปัตยกรรมฝรั่งเศสสวยๆ มากมาย และที่นี่ยังเป็นที่ประทับตากอากาศของจักรพรรดิเวียดนามในสมัยก่อนด้วย เลยมีที่เที่ยวหลากหลาย เช่น พระราชวัง โบสถ์ ทะเลสาป น้ำตกสวยๆ ชาวเวียดนามชอบมาฮันนีมูนกันที่นี่เพราะเดินทางสะดวก มีสนามบินและโรงแรมหรูๆ


สุดยอดจุดท่องเที่ยวยอดนิยม

“เวียดนามเป็นประเทศที่เที่ยวค่อนข้างง่าย ทั้งผู้คน บรรยากาศ และอาหาร ก็คล้ายๆ ที่เมืองไทย และก็มีที่เที่ยวหลายที่ที่ผมประทับใจไม่รู้ลืมจนมาถึงทุกวันนี้ครับ”

อ่าวฮาลองเบย์ (Ha Long Bay)

vietnam-halong-bay

เป็นอ่าวปิดที่สวยมากและมีจุดให้แวะลงไปเที่ยวได้ มีทั้งภูเขา หน้าผา และถ้ำต่างๆ จะไปเล่นน้ำ พายเรือ จะไปเที่ยวแบบเช้าเย็นกลับ หรือไปนอนค้างบนเรือก็ได้ การเดินทางไปฮาลองเบย์ค่อนข้างใช้เวลาเยอะแต่ถ้าเราอยากสะดวกก็สามารถเลือกซื้อทัวร์ไปเที่ยวได้จากทางโรงแรมที่เราไปพัก

ตลาดบัคฮา (Bac Ha)

vietnam-bac-ha-market

ออกไปจากซาปาประมาณ 60 – 70 กิโลเมตร ก็จะถึงตลาดบัคฮา ซึ่งเป็นตลาดของชนกลุ่มน้อย ทุกๆ วันอาทิตย์ชาวเขาเผ่าต่างๆ ก็จะลงมาจากเขาแล้วนำสินค้ามาขายกันที่นี่ เราจะเห็นวิถีชีวิตของชนกลุ่มน้อย ซึ่งดูมีสีสันมากเพราะชนเผ่าแต่ละเผ่าก็จะมีชุดแต่งกายที่ต่างๆ กัน มีตลาดค้าสัตว์เลี้ยง มีของชาวเขาแปลกๆ มาขาย เช่น ของใช้ที่ทำจากขนม้าหรือหางม้า เครื่องแต่งกาย เครื่องประดับพื้นเมือง เครื่องในสัตว์

เมืองมุยเน่ (Mui Ne)

vietnam-mui-ne-white-sand-dune

เมืองชายทะเลทางเวียดนามใต้ที่ไปเที่ยวเองก็ได้เพราะอยู่ไม่ไกลจากโฮจิมินห์เดินทางสะดวก ที่นี่มีชายหาดที่เป็นสันทรายกว้างใหญ่และยาวดูคล้ายทะเลทรายที่ส่วนมากคนจะชอบไปถ่ายรูปเล่นกัน หรือจะไปเล่นน้ำ พายเรือ เล่นกระดานโต้คลื่นด้วยก็ได้ บางมุมถ้าถ่ายๆดีนึกว่ามาเที่ยวทะเลทราย เอาไปโชว์ให้เพื่อนดูตกใจเลยว่าว่าเรามาเวียดนาม


สุดยอดสถานที่อันซีน

“ที่ซาปาถือว่าเป็นแหล่งรวมอันซีนของเวียดนามที่น่าจะลองไปดู ส่วนที่เมืองอื่นอย่างโฮจิมินห์ก็มีเหมือนกัน”

ถนนตรามตอนพาส (Tram Ton Pass)

vietnam-lai-chau-tram-ton-pass

อยู่ใกล้ๆ ซาปา ไปเที่ยวง่าย เป็นถนนที่สูงที่สุดในเวียดนาม เวลามองลงมาจากถนนจะเห็นวิวสวยงามด้านล่างทั้งสองฝั่งคือฝั่งซาปาซึ่งเป็นที่ที่หนาวที่สุดแห่งหนึ่งของเวียดนาม กับฝั่งด้านล่างที่เป็นเมืองไลเจา (Lai Chau) ซึ่งเป็นที่ที่ร้อนที่สุดแห่งหนึ่ง เป็นความแตกต่างของสองอุณหภูมิที่น่าสนใจมาก ส่วนด้านล่างก็จะมองเห็นถนนที่คดเคี้ยวไปมาเหมือนงูเลื้อย ซึ่งบรรยากาศแบบนี้เราหาดูไม่ได้ในเมืองไทย น่าตื่นตาดีครับ

นาขั้นบันไดที่ซาปา

vietnam-sapa-rice-field

“คนที่ทำนาขั้นบันไดส่วนใหญ่จะเป็นพวกชาวเขา นาขั้นบันไดผืนใหญ่ๆ จะทำอยู่ในเขตซาปากันเยอะมาก” ที่นี่ทำนากันทั้งภูเขาและในแต่ละฤดูก็จะมีวิวสวยต่างกัน อย่างช่วงปลายปีจะเห็นเป็นทุ่งนาสีทองซึ่งนักท่องเที่ยวจะชอบไปเที่ยวชมกันในช่วงนี้มากเป็นพิเศษ

อุโมงค์กู๋จี (Cu Chi Tunnels)

vietnam-ho-chi-minh-cu-chi-tunnel

อยู่ที่เมืองโฮจิมินห์ ในอดีตเป็นฐานลับใต้ดินที่ใช้ในสงครามเวียดกงที่ชาวเวียดนามใช้สู้รบกับอเมริกา เป็นอุโมงค์ที่ขุดลงไปใต้ดินมีทางเดินแคบๆ แต่ซับซ้อนและกินพื้นที่กว้างมาก น่าทึ่งมากว่าคนสมัยนั้นเข้าไปอยู่อาศัยได้ยังไงเพราะในอุโมงค์ทั้งอึดอัดและอุดอู้ เห็นถึงความทรหดอดทนและดิ้นรนต่อสู้ของชาวเวียดนามจริงๆ


กิจกรรมที่แนะนำต้องลอง

“มีกิจกรรมที่จะไปกับทัวร์หรือจะไปเองก็ได้เพราะเดินทางไปเองไม่ยาก เช่ารถมอเตอร์ไซค์ขับไปเองก็ได้ถ้าไม่ไกลมาก”

เดินเขาที่ซาปา

vietnam-sapa-cat-cat-village

เดินป่าไปดูหมู่บ้านชาวเขาเผ่าต่างๆ ในเขตซาปา เช่น หมู่บ้านกั๊ตกั๊ต (Cat Cat), หมู่บ้านต๋าฟาน (Ta Fan) ซึ่งหมู่บ้านเหล่านี้จะมีฝรั่งไปเที่ยวอยู่บ่อยๆ แต่ละหมู่บ้านก็จะมีวัฒนธรรมการแต่งกายที่ต่างๆ กันไป และก็จะมีเด็กๆ ชาวเขาที่พูดภาษาอังกฤษได้มาเป็นไกด์พาไปชมวิถีชีวิตท้องถิ่น เช่น โรงต้มสุรา โรงทอผ้า โรงโม่ข้าว

นอนค้างบนเรือที่ฮาลองเบย์

vietnam-ha-long-bay

คนที่ชอบลุยๆ น่าจะไปลองนอนค้างคืนบนเรือดูดาวและชมวิวพระอาทิตย์ขึ้นและพระอาทิตย์ตก เรือก็มีหลายแบบหลายราคาให้เลือกแต่ว่าอาจจะมีแต่ห้องน้ำไม่มีห้องอาบน้ำ ส่วนใหญ่เรือที่เวียดนามจะมีลักษณะคล้ายๆ เรือสำเภา บนเรือจะมีขายอาหารแบบง่ายๆ และเครื่องดื่มให้บริการด้วย

นั่งเรือพายชมวิวที่เมืองนิงห์บิงห์ (Ninh Binh)

vietnam-ninh-binh-river

อยู่เลยฮานอยมาไม่ไกล คนไทยบางคนก็จะเรียกที่นี่ว่า “ฮาลองบก” ส่วนมากคนที่มาเที่ยวฮาลองเบย์เสร็จแล้วก็จะมาเที่ยวที่ฮาลองบก ไปนั่งเรือพายลำเล็กๆ ชมภูเขาหินปูนคล้ายๆ ที่กุ้ยหลิน และชมวิวทุ่งนาสองฝั่งแม่น้ำที่สวยมาก


ทิปส์เด็ดสำหรับวางแผนไปเที่ยว

“ถ้าจะไปเวียดนามเหนือควรไปช่วงหน้าหนาวปลายปีเพราะเราจะได้ดูทะเลหมอก ถ้าไปด้านใต้ก็ต้องไปช่วงหน้าร้อนเพราะท้องฟ้าสดใสเที่ยวทะเลได้ ส่วนภาคกลางนี่เราไปเที่ยวได้เกือบทั้งปี ตอนนี้ก็มีสายการบินไปเวียดนามถูกๆ ให้เลือกเยอะ”

เช็คให้ชัวร์ก่อนจ่ายเงิน ส่วนใหญ่ตามโรงแรมที่เวียดนามมักจะมีเคาน์เตอร์บริษัททัวร์มาตั้งอยู่ เวลาซื้อทัวร์ท้องถิ่นกับคนขายทัวร์ให้ถามและเช็ครายละเอียดให้ครบถ้วนก่อนจ่ายเงิน เช่น รวมค่าที่พักหรือยัง รวมอาหารด้วยหรือเปล่า รวมค่ารถรับส่งไปกลับหรือเปล่าและอย่าลืมต่อราคาด้วย เพราะบางทีก็อาจจะเจอว่าเราซื้อทัวร์กับนายหน้าแล้วพอส่งต่อให้กับหน้างานเราต้องจ่ายเงินเพิ่ม ซึ่งเราอาจจะขอใบรายละเอียดทัวร์ดูและเก็บไว้เป็นหลักฐาน หรือลองไปหาข้อมูลรีวิวบริษัททัวร์จาก Pantip หรือ Trip Advisor ก็ได้

ไม่จำเป็นต้องจองที่พักล่วงหน้า “ผมว่าจองที่พักไปล่วงหน้าแพงกว่า” โรงแรมสองถึงสามดาวตามแหล่งท่องเที่ยวเราเดินเข้าไปถามราคาที่พักได้เลยและสามารถต่อราคาได้ด้วย แต่ว่าก่อนจ่ายเงินค่าที่พักอย่าลืมขอดูสภาพห้องก่อน เช่น แอร์ ห้องน้ำ เตียง กลิ่นในห้อง ความสะอาด หรือขอดูห้องก่อนค่อยมาต่อราคาก็ยังได้ โดยเฉพาะช่วงโลว์ซีซั่นหน้าฝนเค้าจะง้อลูกค้ามาก

การเดินทางจากสนามบินเข้าเมือง แท็กซี่เวียดนามขึ้นชื่อมากเรื่องโกงค่าโดยสารหรือพาขับอ้อมโดยเฉพาะที่สนามบินฮานอย แนะนำว่าให้ใช้รถเมล์ หรือ Airport Bus หรือจองรถรับส่งโรงแรมจะดีกว่า

apg-1016-bttb-th-social-assets-vn-784x290--v2-xy

สิ่งที่ควรรู้/สิ่งที่ควรทำในระหว่างเดินทาง

“ส่วนใหญ่เราไปเที่ยวเวียดนามกันไม่นานก็ไม่จำเป็นต้องแลกเงินดองไปเยอะ เพราะหน่วยเงินดองเวียดนามมันใหญ่มากเราอาจจะต้องถือเงินเป็นฟ่อนๆ และให้ระวังเวลาซื้อทัวร์หรือซื้อของกับพ่อค้าแม่ค้าเวียดนามให้ตรวจนับเงินทอนดีๆ”

ใช้เงิน US Dollar ไปแลกเงินด่อง ที่เวียดนามจะแลกได้เยอะกว่าใช้เงินบาทแลก บางที่ก็รับเงินดอลล่าร์เลยและได้เรทดีกว่า ส่วนตลาดที่มีนักท่องเที่ยวไปกันเยอะๆ ในเมืองก็รับเงินบาทด้วย แต่ไม่แนะนำใช้บัตรเครดิตยกเว้นถ้าจะใช้จ่ายค่าที่พักโรงแรมระดับห้าดาวถึงน่าจะปลอดภัยกว่า

ก่อนสั่งอาหารในร้านอาหารทั่วไปมาทาน อย่าลืมถามว่าใช้เนื้ออะไรทำอาหาร เพราะที่เวียดนามทานเนื้อสุนัขกันเป็นปกติและมีบางร้านก็ขายเนื้อสุนัข อย่างเช่นตามตลาดที่เห็นเป็นเนื้อเสียบไม้ก็อาจเป็นเนื้อสุนัขได้ ให้ถามให้แน่ใจก่อนซื้อมาทาน

เตรียมปลั๊กไฟ ที่เวียดนามใช้หัวปลั๊กแบบกลมสองขา ควรเตรียม Universal Adapter ไปใช้ด้วย


ที่มา: บทสัมภาษณ์ Worldwantswandering ที่เว็บท่องเที่ยวของ Skyscanner

ติดตามการเดินทางอื่นๆของพวกเราได้ที่ >>> https://worldwantswandering.com/