สิมิลัน เกาะสวรรค์ของน้ำดำน้ำจากโลก (Let’s go Similan)

0
2087

สิมิลัน เกาะสวรรค์ของน้ำดำน้ำจากโลก (Let’s go Similan)

สิมิลัน เกาะสวรรค์ของนักดำน้ำ ดำดิ่งใต้ท้องทะเลอันดามัน หมู่เกาะสิมิลัน เกาะตาชัย และกองหินริเชริว
ถ้าจะมีใครสักคนหนึ่งที่พูดคำว่า สิมิลัน ขึ้นมาท่ามกลางหมู่นักท่องเที่ยวคนไทย คงไม่มีใครไม่รู้จัก ถ้าถามละเอียดขึ้นไปอีกนิดว่ามีใครบ้างที่เคยมาสัมผัสน้ำทะเลสีใสและหาดทรายที่นุ่มดุจเม็ดแป้ง โลกเหนือผิวน้ำของ
สิมิลันว่าสวยแล้ว แต่โลกใต้ผิวน้ำของสิมิลันกลับสวยยิ่งกว่าหลายร้อยเท่า และนี่คือจุดเริ่มต้นของการผจญภัยโลกใต้ทะเลของผมในครั้งนี้ สิ่งที่เห็นใต้ทะเลมันได้เปลี่ยนความคิดของผมไปตลอดกาล!!
สรุปการดำน้ำที่อันดามัน หมู่เกาะสิมิลัน (แบบย่อ)

การดำน้ำลึก (Scuba) ที่สิมิลัน เกือบทั้งหมดต้องเป็น liveaboard ความหมายคือต้องไปกินนอนอยู่บนเรือตลอดช่วงระยะเวลาดำน้ำทั้งหมด ถามว่าไปๆกลับๆฝั่งไม่ได้เหรอ คำตอบก็คือ ไม่ได้แน่ๆ เพราะเกาะแต่ละเกาะอยู่ห่างจากฝั่งแผ่นดินมากๆ ถ้าใครเคยนั่งเรือไปเที่ยวเช้าไป-เย็นกลับ ที่สิมิลันหรือตาชัยจะอยู่รู้ดีว่าแค่เดินทางอย่างเดียวก็หมดแรงแล้วครับ

คนที่จะมาดำน้ำที่สิมิลัน ควรเป็นอย่างน้อย open water มาแล้ว แต่ให้ถ้าเป็น advance มาเลยจะยิ่งดี เพราะจะยิ่งไปได้ลึกถึง 20-30 เมตร ซึ่งเป็นอะไรที่สนุกกว่าการอยู่ที่ผิวน้ำมากๆครับ แต่ถ้ามีแต่ open water มา แล้วอยากจะมาเรียน advance ต่อก็ทำได้เช่นเดียวกัน โดยแจ้งทางเรือที่เราจะมาไว้ล่วงหน้าจะได้จัดเตรียมการสอนบนเรือเอาไว้เลยครับ พีคสุดของการดำน้ำที่สิมิลันคือ…

การไปดำน้ำที่กองหินริเชลิว!!!

จุดดำน้ำลึกที่สวยงามที่สุดที่ได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในสิบจุดดำน้ำที่สวยสุดของโลกเลยทีเดียว ทั้งกระเบนราหูหรือฉลามวาฬอาจจะโผล่มาทักมายเราที่นี่ได้ครับ หาดทรายกับน้ำใสๆที่สิมิลันหรือตาชัยว่าสวยแล้ว ถ้าได้ลงมาใต้ทะเลจะแบบตื่นตะลึงยิ่งกว่าอีกแน่นอน

พูดถึงเวลา จำนวนวัน และค่าใช้จ่ายของการ liveaboard เพื่อมาดำน้ำที่นี่แนะนำอย่างไร??

  • ประมาณ 5-7 วันโดยประมาณ อย่างผมไป 5 วัน ก็ได้ดำประมาณ 12-14 dive ครับ จะเป็นที่สิมิลัน 4-6 dive, เกาะบอน เกาะตาชัยอีก 4 dive, และกองหินริเชลิวอีกประมาณ 2-3 dive, และดำซากเรือบุญสูงที่เขาหลักอีก 2 dive
  • จำนวนคนที่ไป ก็แล้วแต่ขนาดของเรือที่เราไป อย่างผมไปของ Deep Andaman Queen ก็จะมีประมาณ 20 คน
  • นอนสบายไหม อันนี้อยู่ที่เรือเป็นหลักเลยครับ ถ้าแบบดีๆก็จะนอนสบายมีเตียง มีห้องน้ำในตัวให้เลยครับ
  • ค่าใช้จ่าย แล้วแต่แพคเกจของแต่ละเรือนะครับจะตกอยู่ที่ประมาณ 20,000 – 30,000 บาท พอๆกับไปเที่ยวต่างประเทศ แต่ถ้าคิดดูดีๆแล้วก็เหมือนกับการไปเที่ยวต่างประเทศจริงๆ เพราะการดำน้ำที่นี่คือแหล่งท่องเที่ยวระดับโลกครับ!

เอาละ ต่อจากนี้ก็ลุยกันเลยนะครับ!!!

Finding Nemo

ปลาที่มักจะสร้างรอยยิ้มให้กับนักดำน้ำทุกครั้งยามที่พบเห็นก็คงหนีไม่พ้นที่ปัจจุบันคนไทยเรียกกว่า “ปลานีโม่” หรือ “ปลาการ์ตูน”  เจ้านีโม่จะเจอได้ไม่ยากตามที่อยู่ของดอกไม้ทะเล ถ้าเจอดอกไม้ทะเลที่ไหนก็แปลว่าเจอนีโม่ที่นั่น ถ้าฝึกลอยใต้น้ำได้เก่งๆ ยามที่กระแสน้ำนิ่งๆไม่มีคลื่น การชะโงกหน้าก้มลงไปดูนีโม่ที่ทำตัวเหมือนกับเล่นซ่อนหาอยู่ท่ามกลางเส้นสายของดอกไม้ทะเลที่ปลิวไสวไปมาก็คือความสุขเล็กๆที่เกิดขึ้นได้ไม่ยากในระหว่างทาง

เพื่อนเต่าผู้มีวิถีชีวิตสโลว์ไลฟ์
การจะเห็นเต่าทะเลว่ายอยู่ในน้ำหรือกำลังหาอะไรกินอยู่ ไม่ได้ถือว่าเป็นเรื่องแปลกที่สิมิลันครับ เพราะบริเวณเกาะหนึ่งคือแหล่งวางไข่ของเต่าทะเลขนาดใหญ่ของทะเลอันดามัน

แมนต้าเรย์(Manta Ray)

ตามหากันมานาน ในที่สุดเราก็หากันจนเจอ พระเอกที่แท้ทรูของท้องทะเลอันดามันคงหนีไม่พ้น ปลากระเบนราหู หรือมีชื่อเรียกเท่หๆว่า “แมนต้าเรย์” (Manta Ray) ที่ภาษานักดำน้ำจะไม่เรียกปลาชนิดนี้ว่าว่ายน้ำ แต่เราจะเรียกว่ามันบินมามากกว่า แมนต้าเรย์เป็นสัตว์โลกที่รักความสงบและไม่ดุร้าย เขาบอกว่าถ้าใครที่ได้เจอแมนต้าเข้าระหว่างดำน้ำ

วิธีปฎิบัติตนที่ถูกต้องคือ “ทำตัวน่ารัก และทำให้แมนต้ารู้สึกว่าให้เกียรติเขา” ทำอย่างไรเหรอ??
หลักการง่ายๆ ถ้าแมนต้ากำลังว่ายเข้ามาหาเรา ให้เราลดตัวไปจนแมนต้าว่ายผ่านเราไป หลังจากแมนต้าจะว่ายกลับมาและอยู่เล่นกับมนุษย์คนนั้นเป็นพักใหญ่ๆเลยครับ สิ่งที่ห้ามทำเลย คือว่ายตาม แล้วไปขี่แมนต้าในน้ำ ซึ่งจะทำให้แมนต้าตัวนี้ขวัญกระเจิงและอาจจะไม่ว่ายกลับมาที่นี่อีกเลยก็เป็นไปได้ ลายหน้าท้องของแมนต้าเรย์ เปรียบได้กับลายนิ้วมือของมนุษย์ครับ ไม่มีทางที่แมนต้าเรย์ตัวใดจะมีลายนิ้วมือที่เหมือนกัน
“ถ้ารักแมนต้า อย่าทำให้แมนต้าตกใจ

แผนการตะลุยโลกใต้น้ำในครั้งนี้…

ด้วยความที่หมู่เกาะกลางทะเลอันดามันค่อนข้างอยู่ห่างจากชายฝั่งพอสมควร และสถานที่ดำน้ำแต่ละอยู่กระจัดกระจายกัน การมาด้วยวิธี liveaboard จึงเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดในการท่องโลกใต้ทะเลอันดามัน ส่วนใหญ่แล้วเราจะต้องมีเวลาขั้นต่ำ 5 วัน 4 คืนเป็นอย่างน้อย เพราะว่าต้นทุนในการออกเรือนั้นสูงมาก และจุดน่าสนใจมีอยู่มากมาย ด้วยเวลาขั้นต่ำประมาณนี้จะทำให้เราได้มีโอกาสไปครบทุกกองหินที่ได้ชื่อว่าสวยไม่แพ้ที่ใดๆในโลกได้อย่างครบถ้วน

ผมขอเล่าคร่าวๆถึงหมู่เกาะสิมิลันที่ประกอบไปด้วยเกาะ 9 เกาะ

  • เกาะหนึ่ง หรือเกาะหูยง : ชายหาดของเกาะนี้เป็นที่วางไข่ของเต่าทะเลหลายชนิด จึงไม่เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าไปโดยไม่ได้รับอนุญาต
  • เกาะสอง หรือเกาะปาหยัง : บรรยากาศคล้ายๆเกาะหนึ่ง
  • เกาะสาม หรือเกาะปาหยัน : ใต้น้ำบริเวณเกาะแห่งนี้มีกำแพงหินที่เกิดตามธรรมชาติเรียกกันว่า Boulder city และ Sharkfin reef สันฉลามโดยเกาะ 1-3 นี้จะไม่อนุญาตให้นักท่องเที่ยวขึ้นเกาะได้ครับ
  • เกาะสี่ หรือเกาะเมี่ยง : เกาะเมี่ยงใหญ่เป็นอันดับ 2 รองจากเกาะสิมิลัน เป็นที่ตั้งของบ้านพักอุทยานสำหรับคนที่จะมาค้างคืนที่นี่ มีแหล่งดำน้ำตื้นสำหรับการใช้ snorkel ได้ มีจุดชมวิวๆสวยหลักล้านคือ “จุดชมวิวล้านข้าหลวง”
  • เกาะห้า : เกาะห้า เป็นเกาะหินลูกเล็กๆ ที่ไม่มีสิ่งปลูกสร้างใดๆ ทางด้านทิศตะวันออกของเกาะห้ามีจุดดำน้ำที่น่าสนใจมาจุดหนึ่งชื่อว่า สวนปลาไหล( Garden Eel) ตั้งชื่อตามลักษณะของผืนดินใต้น้ำที่มีปลาไหลตัวเล็กๆ สีขาวอาศัยอยู่ บนพื้นทายชูคอกันอยู่เต็มไปหมด นอกจากนั้นหินใต้น้ำที่มีสิ่งมีชีวิตสวยงามจำพวกปะการัง อ่อน กัลปังหาต้นใหญ่ๆ ตลอดจนมีฝูงปลาเล็ก อาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก
  • เกาะหก หรือเกาะปายู : อีกเกาะหนึ่งใกล้ๆ กันที่นักท่องเที่ยวมักแวะดำน้ำก็คือ เกาะหกหรือเกาะปายู ซึ่งเกาะนี้จะมีลักษณะเป็นภูเขาหิน และมีชายหาดอยู่ทางด้านตะวันออก ซึ่งทางด้านนี้ของเกาะหก นักท่องเที่ยวนิยมมาดำน้ำชมปะการังกัน เพราะมีทั้งปะการังแข็ง ปะการังอ่อน และกัลปังหา
  • เกาะเจ็ด หรือเกาะหินปูซาร์ : เป็นเกาะหินขนาดไม่ใหญ่มาก จุดดำน้ำดังๆคือ Deep Six, Elephant head และ East of Eden
  • เกาะแปด หรือเกาะสิมิลัน : เกาะแปดคือสัญลักษณ์ตัวแทนหรือภาพที่ิติดตาคนทั่วโลก “หินใบ” หินแกรนิตรูปทรงเหมือนเรือใบที่ตั้งอยู่บนยอด สามารถเดินขึ้นได้และมองไปจะเห็นอีกเจ็ดเกาะที่เหลือในแค่คืบมือ ทีนี่ยังเป็นสถานที่ตั้งแคมป์ของนักท่องเที่ยวด้วย แถวนี้จะเป็นแหล่งดำน้ำตื้นสำหรับ snorkel
  • เกาะเก้า หรือเกาะบางู : ที่ตั้งของจุดดำน้ำชื่อดังคือ Christmas point, Three tree และ North point

    จากตรงนี้ไปจะเป็นทะเลเปิดอันกว้างใหญ่จนไปถึงอีก 2 เกาะ ที่อยู่เหนือออกไปไกล แต่คนไทยรู้จักกันดีมากๆนั่นคือ

  • เกาะบอน (ฺBon) : จุดเด่นคือช่องเขาทะลุที่เกิดจากหินที่ถูกน้ำทะเลกัดเซาะจนเป็นโพลง เกาะนี้ไม่มีชายหาดจึงไม่สามรถขึ้นฝั่งได้ แต่โลกใต้ทะเลสวยเด็ดไปเลยและที่สำคัญคือที่นี่สามารถพบเจอกระเบนราหูได้ง่ายกว่าจุดอื่น
  • เกาะตาชัย (Tachai) : เกาะยอดนิยมของสายวันเดย์ทริป แต่สำหรับชาว Liveaboard แล้วเราจะไม่ได้ขึ้นฝั่งกันแต่จะลงไปกันที่โลกใต้ทะเลรอบๆเกาะตาชัยกันแทน

พื้นที่บริเวณนี้จะเรียกรวมๆกันว่า หมู่เกาะอันดามันเหนือ(North Andaman) ประกอบไปด้วย อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลัน ที่รวมไปถึงเกาะบอนและเกาะตาชัย และเหนือขึ้นไปอีกคืออุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสุรินทร์ซึ่งรวมไปถึง “กองหินริเชริว”
ส่วนอันดามันใต้ (South Andaman) ก็จะเป็นบริเวณเกาะที่อยู่ใต้พังงาลงในจังหวัดภูเก็ต กระบี่ ตรัง และสตูล

อันนี้คือเรือของผมเอง MV Deep Andaman Queen
เรืออันนี้เป็นเรือ Liveaboard ที่ใหญ่ที่สุดลำหนึ่งของเมืองไทย เปิดให้บริการท่องทะเลไทยและพม่ามากว่าสิบปีแล้ว ลูกค้าปัจจุบันจะเป็นชาวต่างชาติซะเยอะเลยทำให้มีกลิ่นอายของตะวันตกอยู่พอสมควร แต่ทีมงานเรือเป็นคนไทยทั้งหมดนะครับ ชีวิตของนักดำน้ำในเรือ Liveaboard ก็จะขึ้นๆลงๆเรืออยู่ตลอดเวลาตั้งแต่พระอาทิตย์ขึ้นจนพระอาทิตย์ตก ข้อมูลของเรือลำนี้สามารถดูได้จากภาคผนวกในส่วนล่างสุดของบทความครับ

สำหรับแพจเกจราคาคร่าวๆตอนนี้จะมีส่วนลดพิเศษ 20% สำหรับคนไทยโดยเฉพาะในช่วงนี้จนถึงปลายปี 2561 นะครับ ติดต่อได้ที่อีเมล์ info@deepandamanqueen.com หรือเบอร์ติดต่อ 0814926953 คุณศุภสิทธิ์ แล้วแจ้งรหัสการจองว่า “JOE” นะครับ (ต้องแนบไฟล์สำเนาบัตรประชาชนไปด้วยนะครับ) เราออกเดินทางจากท่าเรือทับละมุที่พังงาเมื่อตอนประมาณสองทุ่มของเมื่อวานนี้ตื่นมาอีกทีก็อยู่ที่แล้ว

การดำในแพจเกจ 5 วัน 4 คืน จะมีทั้งหมด 14 ไดฟ์ครับ

  • วันที่ 1 ทางบริษัท Deep Andaman Queen จะตะเวนรับนักดำน้ำทุกคนไล่ขึ้นมาจากตั้งแต่จังหวัดภูเก็ตมาจนถึงท่าเรือทับละมุ จุดรับก็แล้วแต่ตกลงกัน จะเป็นที่สนามบินภูเก็ตก็ได้ครับ แต่โดยสรุปแล้วทุกคนก็จะมารวมตัวกันที่เรือในเวลาประมาณ 20.00 ของวันแรก แล้วหลังจากนั้นเรือก็จะออกท่องทะเลในคืนเดียวกัน
  • วันที่ 2 ดำ 4 ไดฟ์ ในเขตของเกาะ 1-8 ของหมู่เกาะสิมิลัน
  • วันที่ 3 ดำ 4 ไดฟ์ ในเขตของเกาะบอน และเกาะตาชัย
  • วันที่ 4 ดำ 4 ไดฟ์ ที่กองหินริเชริว
  • วันที่ 5 ดำ 2 ไดฟ์ ที่ซากเรืออัปปางบุญส่ง
    โดยสถานที่ดำน้ำจะแปรเปลี่ยนไปตามการตัดสินใจของ Trip leader ประจำเรือ โดยยึดตามผลประโยชน์ของนักดำน้ำเป็นสำคัญครับ

บนเรือมีอะไรให้เราใช้บ้าง??

สำหรับอุปกรณ์ดำน้ำทุกอย่าง ถ้าชีวิตไม่มีอุุปกรณ์อะไรเลย ก็ติดแต่กางเกงว่ายหรือชุดว่ายน้ำมาตัวเดียวพอครับ
บนเรือ MV Deep Andaman Queen มีให้ยืมทุกอย่างในแพคเกจหมดแล้ว ไล่ไปตั้งแต่ Wet suit, BCD, regulator, fin, oxygen tank

ส่วนสิ่งต้องมีมาเอง

  • Dive computer แต่ถ้าไม่มีก็ไม่ต้องไปลงทุนซื้อเพราะมีให้เช่าเช่นเดียวกันเป็น Suunto รุ่น Zuup ราคาค่าเช่าวันละ 300 บาทครับ กี่วันก็คูณไป ทีนี้ถามว่าต้องเอาเสื้อผ้ามากี่ตัว เตรียมอะไรมาบ้าง

สิ่งที่บนเรือมีให้

  • ผ้าขนหนู เช็ดตัว และ เช็ดหน้า จะมีให้คนละ 1 ชุด เอาไว้ใช้ตลอดทริปครับ
  • ผ้าขนหนูสำหรับใช้ระหว่างวันแนวๆ beach towel ครับ วันละ1 ผืน เช่นเดียวกัน
  • พวกอุปกรณ์อาบน้ำเช่น สบู่ แชมพู มีหมดแล้ว

เท่ากับเตรียมแต่ชุดกับเครื่องในส่วนตัวมาแค่นั้นพอ จริงๆจะว่าไปชุดก็ไม่ต้องเอามาเยอะ เพราะก็ใส่ซ้ำๆไปนั้นแหละครับ ชีวิตครึ่งวันอยู่ในท้องทะเลไม่ได้มีเหงื่ออกอะไรมากมายเลย สำหรับคนที่ดำแบบ Nitrox บนเรือก็มีให้บริการเช่นกันนะครับ

สิมิลัน

First Dive / Check Dive
ในไดรฟ์แรกเกือบทั้งหมดจะเป็น check dive หมายความว่าเป็นการดำน้ำแบบเรียกว่าซ้อมใหญ่ก็ว่าได้ คนบางคนที่ไม่ดำน้ำมานานมาก แบบผม คือดำครั้งล่าสุดราวๆ 6 เดือนที่แล้ว เรียกมีแต่ความรู้สึกว่าเป็นอย่างไร แต่ความคุ้นเคยไม่เหลือซักกะนิด ต้องถ่วงน้ำหนักกี่กิโลที่เอวก็จำไม่ได้ ก่อนมาก็ถามทางทีมงานเรืออยู่ว่าต้องไปลง refresh course ของ PADI ไหมสำหรับคนที่ห่างเหินไปนาน แต่ก็ได้ความมาว่า “ไม่ต้องทำ” เพราะในไดรฟ์แรกเดี๋ยวทาง Dive leader เขาจะเช็คทุกอย่างและทบทวนทุกอย่างกันอีกครั้งในน้ำแล้วค่อยเริ่มของจริงกัน

เพราะฉะนั้นจะยังไปกันไม่ค่อยลึกมากครับ เน้นกลับมาทำตัวให้คุ้นเคยกับโลกใต้ทะเลอีกครั้ง

แต่ที่สำคัญที่ต้องระลึกไว้เสมอก็คือ อันนี้ไม่ใช่การมาเรียนดำน้ำแล้วนะครับ มันคือการดำน้ำของคนที่ถือบัตรรับรองเรียบร้อยแล้ว ถ้าไม่แน่ใจหรือขาดความมั่นใจแบบจริงจังการไปลง course refresh มาก่อนก็ถือว่าเป็นเรื่องที่สมเหตุสมผล ไม่งั้นเราจะได้ชื่อว่ากลายเป็นผู้ที่ทำลายธรรมชาติไปโดยไม่ตั้งใจ โดยการเตะปะการัง หรือเตะฝุ่นขึ้นมาจากพื้นจนอาจสร้างความงงงวยให้กับเพื่อนร่วมทีม


ควรจะดำน้ำเป็นมาก่อนแล้ว
หนึ่งใน requirement ของการมาดำน้ำ liveaboard ก็คือเราต้องเป็นนักดำน้ำที่เป็นอย่างน้อย Open water มาแล้ว (ของ PADI หรือเทียบเท่ากันของสถาบันอื่นๆ) ถ้าดำน้ำไม่เป็นเลยไม่สามารถมาได้ แต่ถ้าคนที่อยากจะมาเรียนหลักสูตรเพิ่มเติมบนเรือนั้นสามารถทำได้ครับ เช่นอยากจะเป็น Advance open water ก็แจ้งทาง Trip leader ไว้ก่อนได้เลยเขาจะได้หาครูฝึกมาเตรียมให้

โดยส่วนตัวคำแนะนำของผมสำหรับการมาสิมิลันถ้าเป็น Advance open water มาเลยก็จะดีมากครับ เพราะหลายๆที่ความลึกโดยเฉลี่ยนั้นมากกว่า 18 เมตรครับ

Liveaboard life

การอยู่บน liveaboard เป็นเรื่องที่ไม่ค่อยคุ้นเคยสำหรับคนไทยเท่าไร

Liveaboard คือ การมากินนอนบนเรือแบบจริงจัง เรือของเราจะเปรียบเสมือนบ้านที่ลอยน้ำได้ โดยที่เรือจะพาเราไปยังจุดดำน้ำที่ต่างๆ (Dive site) ที่ทางหัวหน้าทีมดำน้ำวางแผนเอาไว้โดยขึ้นกับความเหมาะสม เช่น สภาพอากาศ สภาพคลื่นในทะเล หรือความแออัดของนักดำน้ำที่อยู่ในบริเวณนั้น เพราะฉะนั้นแผนอาจจะไม่ตายตัว ปรับยืดหยุ่นไปตามเรื่องราว เรื่องของคุณภาพชีวิตจะขึ้นอยู่กับเรือที่เรามาเป็นหลักเลยครับ อย่างเรือ Deep Andaman Queen ที่ผมมาซึ่งก็ถือว่าเป็นเรือที่ใหญ่เป็นลำดับต้นๆของวงการท่องทะเลอันดามันเลยทีเดียว

  • อาหารการกินกลางทะเล อาหารการกินบนเรือต้องบอกว่าเยอะจุใจ กินจนพุงกางทุกมื้อ วัตถุดิบทุกอย่างจะเตรียมมาจากฝั่งหมดแล้ว
  • อาหารบนเรือ Deep Andaman Queen จะออกแนวภาคกลางกินได้ง่ายสำหรับทุกคน แต่ก็จะมีปนๆความเป็นตะวันตกอยู่บ้างเล็กน้อยเพราะลูกค้าส่วนใหญ่เป็นฝรั่งเท่าที่เห็น
  • อาหารเช้า จะเป็นแบบ American breakfast เลยครับ แฮม เบคอน ไข่ดาว และอื่นๆแบบจัดเต็ม ให้อารมณ์คล้ายๆกินอาหารเช้าที่โรงแรม
  • อาหารเที่ยง ก็จะเป็นกึ่งฟิวชั่นไทยผสมฝรั่ง อาจจะเป็นข้าวผัดกับสปาเก็ตตี้ กับเนื้อหรือไก่ และสลัดผัก อะไรอีกจานถึงสองจานครับ
  • อาหารว่าง มักจะเป็นอาหารมื้อรองท้อง จะได้กินหลัง dive ที่ 3 ของวันครับ เป็นอารมณ์พวกซาลาเปา ขนมจีบ อะไรแบบนี้
  • อาหารเย็น คือมื้อที่จัดหนักจัดเต็มที่สุด ไก่ย่างเป็นตัว หรือสเต๊กเป็นชิ้นๆก็จัดกันบนเรือเลยนี่
    นอกจากนี้แล้วเครื่องดื่มบนเรือทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็น น้ำอัดลม น้ำผลไม้ น้ำเปล่า พวกนี้มีให้ไม่อั้นตลอดทาง สิ่งที่ไม่รวมอยู่จะเป็นพวกเครื่องดื่มผสมแอลกฮอล์ครับ กลับมาจากเรือรอบนี้ ถ้าน้ำหนักไม่ขึ้นก็ไม่รู้จะว่าอย่างไรแล้ว

Night dive

หนึ่งในไดฟ์ที่น่าตื่นเต้นที่สุดก็คงหนีไม่พ้นการดำน้ำในเวลาเย็นๆหรือ night diving ซึ่งการลงไปในช่วงเวลากลางคืนนอกเหนือจากความตื่นเต้นของการที่ระยะมองเห็นของตาลดลงมากแล้ว ก็จะเป็นโอกาสที่ดีในการส่องสัตว์บางประเทศหรือปะการังบางชนิดที่เวลาสะท้อนสีแล้วจะสดใสกว่าช่วงเวลาอื่นๆของวัน

เวลาที่ทำ night dive กันก็จะเป็นเวลาที่ก่อนพระอาทิตย์กำลังจะตก ยังพอมีแสงให้บ้าง แต่เมื่อพอลงไปใต้น้ำแสงจะลดลงไปมากยิ่งความลึกที่มากขึ้นก็อาจจะกลายเป็นความมืดมิดไปเลยถึงแม้ข้างบนจะพอมีแสงอยู่บ้างก็ตาม การถ่ายรูปใต้น้ำในเวลากลางคืนเป็นอะไรที่ท้าทายพอสมควร แฟลชกล้องเป็นสิ่งที่สำคัญอย่างมาก ไม่นับว่าต้องให้สมาธิกับเส้นทางข้างหน้าด้วยแล้ว

ที่หลับที่นอน

สิ่งเดียวที่ทำให้ราคาแพคเกจของการ liveaboard ที่อันดามันไม่เท่ากันก็คือ ระดับของห้องนอนที่เราเลือกมาพักนั่นเอง นอกจากนั้นแล้วเหมือนกันทุกอย่างครับ ที่นอนบนเรือ Deep Andaman Queen มีหลากหลายระดับราคา แล้วแต่ความพอใจของเรานั่นเอง แบบที่ผมเลือกมาพักจะเรียกว่า Standard Quad ก็คือแบบ 4 เตียงในห้องเดียวกัน มีห้องน้ำในตัว แชร์กันเอง 4 คนครับ

ทริปนั้นเพื่อนร่วมห้องอีกสามคนเป็นนักดำน้ำจากญี่ปุ่นและอียิปต์ สนุกไปเลย ทุกเตียงจะมีไฟส่วนตัวเอาไว้อ่านหนังสือหรือทำธุระส่วนตัว หมอนกับฟูกนุ่มกำลังดี นอนหลับได้สบายครับแต่ละเตียงก็จะมีปลั๊กไฟส่วนตัวเอาไว้ชาร์ตแบตกล้องได้เช่นเดียวกัน ที่เก็บของสามารถเก็บในตู้ที่มีอยู่สองอันได้ครับ หรือเก็บบนที่ว่างของเตียงบนซึ่งใหญ่พอสมควร ถ้ามากันแบบเป็นกลุ่มเพื่อนนี่ผมว่าห้องแบบนี้น่าจะสนุกและประหยัดที่สุด

สิ่งอำนวยความสะดวกอื่นๆ

  • เครื่องปรับอากาศ แต่ปกติแนะนำให้เปิดที่อุณหภูมิประมาณ 27-28 องศา เพราะเราต้องการอุณหภูมิที่พอเหมาะและไม่ทำอากาศแห้งมากเกินไป จนอาจจะทำให้เราคัดจมูกได้ เพราะนั่นคือจุดจบของการดำน้ำในวันนั้น
  • เครื่องทำน้ำอุ่น เหมือนแบบที่อยู่ในโรงแรมเลยครับ ปรับความร้อนได้ตามใจ น้ำแรงสะใจ
  • ชักโครก ก็เป็นแบบมีที่ฉีดก้นด้วย
  • อ่างล่างหน้า
  • เอาไว้สำหรับซักล้างหรือแปรงฟัน
  • สบู่อาบน้ำ ล้างมือ แชมพู สระผมมีไว้ให้บริการหมดแล้วในห้องน้ำครับ

ภาพที่เป็นเตียงเดี่ยวอันนี้คือ Master Cabin ห้องอยู่ตรงที่หัวเรือพอดี วิวจะสวยที่สุดครับ จะเรียกว่าห้องฮันนีมูนก็ว่าได้นะผมว่า สรุปห้องนอนทั้งหมดของเรือ Deep Andaman Queen จะมีทั้งหมด 9 ห้อง รับแขกได้ทั้งหมด 21 คนตามนี้ครับ
1 Master cabin
5 Deluxe cabins
1 Standard Quad cabin
1 Standard Triple cabin
1 Standard Twin cabin

เกาะบอน (Bon island)

เกาะเล็กๆที่ตั้งอยู่ตรงกึ่งกลางระหว่างเกาะเก้าของหมู่เกาะสิมิลันและเกาะตาชัย เกาะบอนเป็นเกาะที่ไม่มีชายหาด พื้นที่โดยรอบเป็นแก่งและโขดหิดทั้งหมด เกาะบอนจึงไม่ใช่ที่สำหรับ snorkeling หรือจะเล่นทะเลแบบเกาะอื่นๆที่เราคุ้นเคย ในทางตรงกันข้ามแล้ว เกาะบอนกลับเป็นที่รู้จักกันอย่างดีในวงการดำน้ำ เพราะที่ถือว่าเป็นอีกแห่งที่มีโอกาสเจอฉลามวาฬและกระเบนราหูได้มากสุดอีกที่หนึ่งของประเทศไทย

หมึกกระดองที่เกาะบอน

เกาะตาชัย (Tachai island)
เกาะตาชัยเป็นอะไรที่ดังเป็นพลุแตกในเรื่องหาดที่มีเม็ดทรายละเอียดนุ่มที่สุดและน้ำทะเลที่ใสที่สุดแห่งหนึ่งในเมืองไทย เกาะตาชัยเป็นที่นิยมอย่างมากของนักท่องเที่ยวที่เดินทางแบบไป-กลับวันเดียวจากพังงา ก่อนหน้านี้ผมก็เข้าใจว่าเกาะตาชัยมีเพียงเท่านี้ครับ แต่พอได้มาอยู่ในเส้นทางของการดำน้ำแล้วถึงรู้ว่าทางทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ของเกาะตาชัยนี่คือแหล่งดำน้ำระดับโลก ที่ไม่สามารถใช้สน๊อคเกิ้ลมาเยือนได้

ที่นี่มีชื่อว่า “ตาชัย พินนาเคิล” (Tachai Pinnacle)

ตาชัย พินนาเคิล (Tachai Pinnacle) ทะเลอันดามันจะมีพวกปะการังที่ไม่ได้พบในฝั่งอ่าวไทย โดยเฉพาะกลุ่มปะการัง Sea Fan มองเผินๆ จะคิดว่าปะการังพวกนี้เป็นต้นไม้ แต่ที่ไหนได้จริงๆแล้วมันคือสัตว์นะครับ เป็นสัตว์ที่อยู่ในไฟลัมไนดาเรีย (Cnidaria) วกเข้าเรื่องชีววิทยานิดนึง ที่เราเห็นเป็นแพๆจริงๆแล้วมันก็ประกอบด้วยเซลล์ของสัตว์จำนวนมากมายที่ประกอบร่างกันขึ้นมาแล้วทำงานไปในทิศทางเดียวกันแบบร่างกายมนุษย์นี่แหละครับ จากใต้ทะเลเราจะเจอปะการังกลุ่มนี้เยอะมากๆ จนบางครั้งรู้สึกว่าตัวเองกำลังเดินอยู่ในโรงโอเปร่าขนาดยักษ์

กองพัน Barracuda

การอยู่ท่ามกลางฝูงบาราคูด้าที่มาเป็นกองทัพทำให้อะดรีนาลีนหลั่งทุกครั้ง ไม่รู้ธรรมชาติออกแบบมาได้อย่างไร บาราคูด้าพวกนี้ถึงเคลื่อนที่ไปเป็นกองทัพแบบนี้ทุกครั้ง บาราคูด้าเป็นหนึ่งในปลาที่หน้าบึ้งที่สุดเท่าที่ผมเคยเห็นในท้องทะเล

กองหินริเชริว (Richelieu Rock)
หลังจากหมดวันที่สามของการอยู่บนเรือ เรือผมก็ถอนสมอออกจากเกาะตาชัยแล้วมุ่งหน้าขึ้นไปทางทิศเหนือไปยังกองหินที่อยู่กลางทะเล เป้าหมายของการมาดำน้ำของผมที่สิิมิลันไม่ใช่อะไรอื่นไกลเลย จุดหมายปลายทางเป็นเพียงกองหินเล็กๆที่ถ้าเทียบกับขนาดของแผนที่แล้วยังไม่ถูกระบุไว้เลยด้วยซ้ำ ด้วยความที่ตั้งอยู่ท่ามกลางกระแสน้ำ กองหินแห่งนี้เลยกลายเป็นที่รับการพัดพาตะกอนและแร่ธาตุต่างๆจากทั่วทุกสารทิศมาเป็นเวลาหลายล้านปีติดต่อกัน ก่อนให้เกิดเป็นเหมือนมหาวิหารของเหล่าสัตว์ทะเลแห่งลุ่มน้ำอันดามันที่พากันมาสร้างบ้านสร้างเรือนอยู่กันอย่างมีความสุข กองหินแห่งนี้ยามน้ำขึ้นเราจะมองไม่เห็นอะไรจากด้านบน แต่ต่อให้น้ำลงก็เห็นเพียงราวกับเป็นหินโสโครกขนาดเล็กที่ดูแล้วขัดหูขัดตา แต่ยามใดที่มนุษยได้ดำดิ่งลงไปเบื้องล่างแล้ว

ทะเลอันดามันในความคิดของเขาจะเปลี่ยนไปตลอดกาล

กองหินแห่งนี้มีชื่อว่า “กองหินริเชริว” หรือ Richelieu Rock นั่นเองครับ

มาริเชริวเดือนไหนดี
ฤดูกาลที่เหมาะที่สุดสำหรับการดำน้ำในทะเลอันดามันคือช่วงระหว่างเดือนตุลาคมจนถึงกลางเดือนพฤษภาคม แต่ถ้าถามว่าดีที่สุดคือเดือนไหน ก็น่าจะเป็นระหว่างเดือนกุมภาพันธ์จนถึงเมษายน ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่จะเจอฉลามวาฬหรือกระเบนราหูได้มากทีสุด อีกทั้งยังเป็นช่วงที่น้ำนิ่งกำลังดี โอกาสที่จะเจอกับฝนตกน้อยที่สุด นอกเหนือจากฝูงปลาจำนวนมากที่สร้างบันเทิงได้ตลอดทางแล้ว พวกบรรดาสิ่งมีชีิวิตที่ไม่สามารถขยับตัวได้อย่างดอกไม้ทะเลก็เหมือนกับเป็นแด๊นซ์เซอร์เข้าจังหวะกับฝูงปลาได้เป็นอย่างดี

ทุ่งดอกไม้ทะเล (Carpet of Sea Anemone)

หนึ่งในวิวใต้น้ำที่ผมชอบมากที่สุดก็คือช่วงเวลาที่เราว่ายผ่านพื้นที่เต็มไปด้วยมวลหมู่ดอกไม้ทะเลจำนวนมากจนบางครั้งนึกอยากจะลงไปลองสัมผัสมันดูสักหน่อยว่าจะนุ่มนิ่มเหมือนที่ใจเราคิดไว้หรือไม่ ภาพถ่ายเพียงภาพเดียวไม่อาจจะบันทึกความพริ้วไหวของดอกไม้ทะเลได้ ถ้าไม่ลืมคิดว่าตอนนี้กำลังดำอยู่ในน้ำที่ระดับความลึก 20 กว่าเมตรแล้วละก็ ตอนนี้ผมอาจจะกำลังคิดว่าตัวเองกำลังวิ่งอยู่ในฉากหนังเรื่องอวตารอยู่ก็เป็นไปได้

ดำน้ำหมู่เกาะสิมิลัน

กองหินที่ไม่ได้เป็นเพียงกองหิน

กองหินในความหมายโดยทั่วไปอาจจะเป็นเพียงแค่ก้อนหินก้อนหนึ่งที่ดูไร้ค่าไร้ความหมายใดๆ แต่ไม่ใช่ที่ริเชริว กองหินมหัศจรรย์ที่นอกจากจะประพฤติตนเป็นบ้านให้บรรดาสัตว์น้ำนับล้านได้มาหลบภัยแล้ว ความสวยงามขั้นเทพของที่นี่ได้ดึงดูดนักดำน้ำจากทั่วทุกมุมโลกมายังก้อนหินใต้ทะเลสร้างเงินเข้าประเทศไทยได้อย่างมหาศาล

บทส่งท้าย

ผมใช้เวลาอยู่ที่ริเชริวเป็นเวลาเกือบหนึ่งวันเต็มๆ หรือราวๆห้าวันในทะเลอันดามันแห่งนี้ ในฐานะของนักดำน้ำสมัครเล่นที่นานๆจะได้ลงทะเลสักครั้ง การดำน้ำที่สิมิลันเปรียบเสมือนกับการเดินออกจากโลกใบเดิม โลกของการเข้าทำงานตามเวลา 8-5 โลกที่เดินออกจากที่ทำงานมาก็พบความวุ่นวายของเมืองหลวงไม่รวมถึงอากาศที่หายใจเข้าไปที่ถึงแม้จะรู้ว่าสะอาดแต่ก็หายใจได้ไม่เคยเต็มปอด เป็นการพาตัวเองมาสู่ใลกใบใหม่ ที่มีมหาสมุทรเป็นพื้นที่ทำงานและมีบรรดาสรรพสัตว์ใต้น้ำเป็นเพื่อนร่วมงาน

ความเหนื่อยล้าทางใจได้ถูกปลดปล่อยออกไปจนหมดเป็นปลิดทิ้งพร้อมจะกลับมาสู้กับโลกปัจจุบันที่อ้าแขนต้อนรับเราอยู่ ออกเดินทางมาสิมิลันกันนะครับ มารับลมหายใจของอันดามันแบบหาที่ไหนไม่ได้อีกแล้วในประเทศไทย

ขอขอบคุณทีมงานเรือ Deep Andaman Queen ทุกคนด้วยครับที่มอบประสบการณ์อันสุดแสนพิเศษให้ผมในครั้งนี้

สำหรับแพจเกจราคาคร่าวๆตอนนี้จะมีส่วนลดพิเศษ 20% สำหรับคนไทยโดยเฉพาะในช่วงนี้จนถึงปลายปี 2561 นะครับ ติดต่อได้ที่อีเมล์ info@deepandamanqueen.com หรือเบอร์ติดต่อ 0814926953 คุณศุภสิทธิ์ แล้วแจ้งรหัสการจองว่า “JOE” นะครับ (ต้องแนบไฟล์สำเนาบัตรประชาชนไปด้วยนะครับ)

และนี้คือเรื่องราวที่ผมเอามาฝากทุกๆคนกันครับ เกาะสิมิลันของเราสวยติดระดับโลก  มีโอกาสไปดำน้ำกันนะครับ ไปเที่ยวบ้านเหล่าน้องปลา ในที่ที่เค้าควรอยู่จริงๆกันครับ

ติดตามการเดินทางของพวกเราเพิ่มเติม อ่านต่อ >>> https://worldwantswandering.com/

สนใจโปรแกรมการเดินทางทั่วโลกไปต่อที่นี่ได้เลยครับ >> https://www.patourlogy.com/